แนะมาตรการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม เตือนไทยเสี่ยง“มหาวิบัติภัย”ถล่ม!!!
แนะระวังผลกระทบจากพายุนาลแก เข้าโจมตีชายฝั่งประเทศเวียดนาม และจะพัดผ่านเข้าประเทศไทยในแถบจังหวัดนครพนม
นายธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล หัวหน้าหน่วยศึกษาพิบัติภัยและข้อสนเทศเชิงพื้นที่ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยวันนี้ว่า จากการศึกษา พบว่า สภาพอากาศในไทยมีอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และความชื้นมากผิดปกติ ประกอบกับอยู่ในช่วงของปรากฎการณ์ลานีญา ทำให้เกิดร่องความกดอากาศต่ำ และมรสุมจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดอุทกภัยอย่างหนัก และเกิดสภาพอากาศที่แปรปรวนตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จากการศึกษาพบว่าสภาพอากาศแบบลานีญาที่พบในประเทศไทยนั้น เกิดถี่มากขึ้น จาก 4.6 ปีจะมาหนึ่งครั้ง ขณะนี้กลับเหลือเพียง 2.6 ปีต่อหนึ่งครั้งเท่านั้น และจะเกิดขึ้นยาวนานกว่าปกติ ถ้าสภาพอากาศยังเป็นอย่างนี้อยู่ก็นับว่าน่าเป็นห่วงมากที่จะเกิดสถานการณ์อุทกภัยอย่างหนักในพื้นที่ภาคใต้
“จากการศึกษาความชื้น และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ พบว่า มีสภาพแวดล้อมที่คล้ายคลึงกับเมื่อครั้งเกิดมหาวิบัติภัยตะลุมพุก จ.นครศรีธรรมราช เมื่อ พ.ศ.2505 พายุเกย์เมื่อ พ.ศ.2532 และน้ำท่วมหาดใหญ่ครั้งร้ายแรงเมื่อ พ.ศ.2543 เป็นอย่างมาก ซึ่งเมื่อนำปรากฎการณ์ลานีญา อุณหภูมิน้ำในทะเลจีนใต้ ความชื้น และลมมรสุมมาวิเคราะห์ จะพบว่าทั้งหมดเอื้อให้เกิดพายุขนาดใหญ่อย่างเต็มที่ เหลือเพียงแต่ยังไม่ก่อตัวเท่านั้น จึงขอเตือนว่าในช่วงเดือน ต.ค.-ม.ค. ซึ่งเป็นช่วงของการเปลี่ยนฤดูกาล จะทำให้ลมมรสุมเกิดความแปรปรวน และในช่วงนี้นับว่าอยู่ในภาวะที่อันตราย เสี่ยงต่อการเกิดมหาพิบัติภัยมาก” นายธนวัฒน์ กล่าว
นายธนวัฒน์ ยังกล่าวเตือนว่า ช่วงนี้ต้องระวังผลกระทบจากพายุนาลแก ที่กำลังจะเข้าโจมตีชายฝั่งประเทศเวียดนาม และจะพัดผ่านเข้าประเทศไทยในแถบจังหวัดนครพนม รวมถึงอาจส่งผลให้เกิดดินถล่มที่ จ.เพชรบูรณ์ อย่างที่เคยเกิดขึ้นที่ ต.น้ำก้อ และ ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ อย่างที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ.2544 มาแล้ว อีกทั้งยังอาจส่งผลกระทบโดยอ้อม ทำให้ปริมาณน้ำฝนเพิ่มขึ้นมากในภาคอีสานจนส่งผลกระทบทำให้เกิดน้ำท่วมในวงกว้างได้
นอกจากนี้นายธนวัฒน์ ได้เสนอมาตรการในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม 5 วิธี คือ 1.เร่งปรับปรุงระบบเตือนภัยล่วงหน้า 2.การปรับปรุงระบบการจัดการน้ำขนานใหญ่ 3.การเร่งวางแผนแม่บทมาตรฐานการป้องกันน้ำท่วมโดยใช้สิ่งก่อสร้าง 4.การสร้างแผนการพัฒนากรุงเทพและเมืองบริวาร และ 5.การสร้างทางระบายน้ำฉับพลัน เพื่อให้ไหลลงสู่ทะเลให้เร็วที่สุด โดยขุดร่องน้ำขนาบคลองเพื่อเป็นช่องทางระบายน้ำในเวลาน้ำหลาก
ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า