แนะป้องกันอุบัติเหตุเด็กจมน้ำ

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า


แนะป้องกันอุบัติเหตุเด็กจมน้ำ thaihealth

แฟ้มภาพ


สธ.พบเด็กไทยจมน้ำเสียชีวิตเฉลี่ยเดือนละ 91 ราย แนะผู้ปกครองสอนเด็ก "อย่าใกล้ อย่าเก็บ อย่าก้ม"


ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า รายงานจากองค์การอนามัยโลกพบว่า อุบัติเหตุของเด็กที่เสียชีวิตจากการจมน้ำในแต่ละปีประมาณ 372,000 คน มากกว่าร้อยละ 50 อยู่ในกลุ่มอายุ ต่ำกว่า 25 ปี ในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เป็นสาเหตุอันดับที่ 3 รองจากโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และเอดส์ สำหรับในประเทศไทย พบเด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปี เสียชีวิตเป็นอันดับ 1 มากกว่าเด็กที่เป็นไข้เลือดออก และจากการจราจร ซึ่งในรอบ 10 ปี ที่ผ่านมา ระหว่าง พ.ศ.2549-2558 มีเด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปี เสียชีวิตจำนวน 10,923 คน เฉลี่ยเดือนละ 91 คน ส่วนมากเกิดจากการลงไปเล่นน้ำ หรือพลัดตกลงไปในแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น บ่อขุด อ่างน้ำ เพราะบ่อน้ำมักจะมีลักษณะที่ลาดชันและลึก ซึ่งบางแห่งไม่มีการสร้างรั้วหรือติดป้ายหรือมีอุปกรณ์ในการช่วยเหลือ


นอกจากนี้ ยังพบว่าในจำนวนเด็กที่เสียชีวิตพบว่ากว่า 400 ราย อายุต่ำกว่า 5 ปี เสียชีวิตจมน้ำ ในแหล่งน้ำ ที่อยู่ในบ้าน เช่น ถังน้ำ กะละมัง ตุ่มน้ำ อ่างน้ำ บ่อเลี้ยงปลา ดังนั้นผู้ปกครอง ผู้ดูแลเด็ก ต้องใส่ใจ และสอนเด็ก "อย่าใกล้ อย่าเก็บ อย่าก้ม" อย่าเข้าไปใกล้แหล่งน้ำ เพราะอาจลื่นพลัดตกลงไปในน้ำ อย่าเก็บ เมื่อเห็นสิ่งของตกลงไปในน้ำอย่าเก็บของต้องให้ผู้ใหญ่ช่วยเก็บให้ และอย่าก้ม หรือชะโงกลงไปในโอ่งน้ำ ตุ่มน้ำ ถังน้ำ เพราะอาจหัวทิ่มไปในภาชนะ


ข้อแนะนำสำหรับผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเด็ก 3 ข้อ คือ 1.ดูแลเด็กเล็กอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อย ให้เด็กคลาดสายตาแม้เพียงชั่วขณะ เช่น ขณะทำงานบ้าน โทรศัพท์ เปิด-ปิดประตูบ้าน 2.จัดการแหล่งน้ำที่เด็กสามารถเข้าถึงได้ เช่น เทน้ำทิ้ง หลังการใช้งาน ปิดฝาตุ่ม/ถังน้ำที่บรรจุน้ำไว้ ล้อมรั้วบ่อน้ำ สร้างประตูกั้น และ 3.กำหนดพื้นที่เล่นให้เด็ก โดยเฉพาะเด็กอายุ 0-2 ปี สร้างคอกกั้น ความสูงอย่างน้อย 51 เซนติเมตร ขึ้นไป คอกกั้นแบบมีซี่ราว ต้องมีช่องห่าง ไม่เกิน 6 เซนติเมตร คอกเป็นแนวตั้งเพื่อไม่ให้เด็กสามารถปีนได้ และเป็นวัสดุ ที่ปลอดภัย


 


          

Shares:
QR Code :
QR Code