แนะป้องกันจอตาเสื่อม เตือนอ้วนมากเสี่ยงบอด

          ปัจจุบันสภาวะสังคมที่เร่งรีบ ส่งผลให้พฤติกรรมการบริโภคของคนในสังคมเปลี่ยนแปลงไป ความเสี่ยงต่อโรคภัยไข้เจ็บก็ตามมาด้วย ซึ่งโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการบริโภคผิดๆ ในปัจจุบัน เป็นโรคใกล้ตัวและมักพบมากที่สุด คือ โรคอ้วน

/data/content/23428/cms/bglmortu1468.jpg

          พญ.โสมสราญ วัฒนะโชติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจักษุวิทยา จากมูลนิธิพิทักษ์ดวงตาประชาชน เผยว่า “นอกจากโรคอ้วนจะส่งผลกระทบให้ผู้ป่วยเกิดโรคความดัน เบาหวาน หัวใจ เป็นต้นแล้ว โรคอ้วนยังสามารถทำให้ผู้ป่วยตาบอดได้”

          พญ.โสมสราญบอกว่า ก่อนหน้านี้ ผลการวิจัยของสถาบันไกเซอร์ ที่ได้ยืนยันกับเรื่องนี้ว่า การป่วยเป็นโรคอ้วน ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะความดันในโพรงสมองสูง ซึ่งจะมีอาการคลื่นไส้ ปวดศีรษะ มองไม่ชัด จนอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนถึงขั้นตาบอดได้

          “แม้โรคอ้วนจะเป็นโรคที่ส่งผลกระทบให้เกิดโรคอื่นตามมาอย่างน่าตกใจ แต่สิ่งที่สำคัญสุด คือ เรื่องโภชนาการและพฤติกรรมการบริโภคของผู้บริโภค ที่ต้องตระหนักถึงสารอาหารอันครบถ้วนทั้งผัก ผลไม้ รวมไปถึงการให้ความสำคัญกับมื้ออาหาร การออกกำลังกายที่เหมาะสมอย่างถูกต้อง และนี่คือสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะต้องมาแก้ไขปัญหาปลายเหตุ”

/data/content/23428/cms/enorstvx1379.jpg

         ทั้งนี้ดวงตาเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญและบอบบางมากที่สุด การดูแลรักษาทะนุถนอมดวงตาจึงจำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการเลือกรับประทานผักผลไม้ที่นอกจากจะเป็นวิธีที่ง่าย สะดวกแล้วยังช่วยเสริมสร้างและบำรุงความชุ่มชื่น สดใสให้กับดวงตาอีกด้วย อาทิ การบริโภคผัก ผลไม้ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ลูทีน และซีแซนทีน ในปริมาณสูง เพื่อช่วยลดอันตรายจากอนุมูลอิสระในแสงแดดที่ทำลายจอตา ลดปัญหาตาบอดจากจอประสาทตาเสื่อม กรองแสงสีน้ำเงินที่จะทำลายดวงตา และยังช่วยให้สายตาทำงานได้ดีขึ้นในที่มืด

        ผัก ผลไม้ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ลูทีน และซีแซนทีน อาทิ ผักบุ้ง แครอท ตำลึง ฟักทอง คะน้า กวางตุ้ง ผลอโวคาโด บล็อกโคลี่ ผักโขม ข้าวโพด มะม่วงสุก กล้วย มะละกอ ที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี ฟอสฟอรัส ใยอาหาร ต่างๆ หรือการเลือกบริโภคสารสกัดโอเมก้า 3 ที่มีมากในจำพวกเนื้อปลา ชะลอความเสี่ยงโรคต้อกระจกได้ถึง 4 เท่า

         นอกจากนั้นควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมทำร้ายสุขภาพดวงตา เช่น เลี่ยงอ่านหนังสือในที่ที่แสงสว่างไม่เพียงพอ การดื่มน้ำมากๆ ช่วยให้ลูกตาสดชื่นมีน้ำหล่อเลี้ยงให้ตา จากนั้นหากมีเวลาว่างก็ควรออกำลังกายบริหารตาโดยการกระพริบตาไปมาสัก 5 วินาที โดยการมองขึ้น-ลง การมองซ้าย-ขวา การกลิ้งลูกตาให้เป็นวงกลม เป็นต้น

 

 

         ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

Shares:
QR Code :
QR Code