แนะปชช.ตั้งสติ รับมือพายุ “ไคตั๊ก”

ที่มา : เว็บไซต์คมชัดลึก


แนะปชช.ตั้งสติ รับมือพายุ


แฟ้มภาพ


          อธิบดีกรมสุขภาพจิต สั่งสถานพยาบาลในสังกัดในภาคใต้ เตรียมพร้อมรับมือภาวะน้ำท่วมจากพายุ "ไคตั๊ก" พร้อมแนะประชาชนตั้งสติ คิดถึงความปลอดภัยชีวิตไว้ก่อนและเตรียมความพร้อมในครอบครัวไว้ล่วงหน้า 7 ประการ อาทิ จัดเตรียมอุปกรณ์จำเป็นเช่นไฟฉาย สำรองอาหารน้ำดื่ม เสื้อผ้า อย่างน้อย 3 วันเพื่อยังชีพเอาตัวรอดในภาวะฉุกเฉิน จัดเก็บเอกสารสำคัญและของมีค่าไว้ในที่ปลอดภัย จะช่วยป้องกันและลดความสูญเสียทั้งทรัพย์สินและชีวิต ผลกระทบจิตใจจะน้อยลง ฟื้นตัวได้เร็วหากเกิดสถานการณ์จริง


นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการเตรียมรับมือน้ำท่วมจากพายุโซนร้อนไคตั๊ก (KAI-TAK) ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ตามประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาในช่วงวันที่ 22-24ธันวาคม 2560 ว่า ได้ให้สถานพยาบาลที่อยู่ในสังกัดในภาคใต้ที่มี 5 ทั่วประเทศ ประกอบด้วยโรงพยาบาลจิตเวช 2 แห่ง ศูนย์สุขภาพจิต 2 แห่ง และสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นภาคใต้ 1 แห่ง เตรียมความพร้อมรับมือ 2 เรื่อง คือเตรียมป้องกันน้ำท่วมสถานพยาบาลไว้ล่วงหน้า เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมงและเตรียมพร้อมทีมสุขภาพจิตเอ็มแคท พร้อมเวชภัณฑ์ยาที่จำเป็นอย่างน้อยแห่งละ 3 ทีม เพื่อสนับสนุนทีมสุขภาพจิตเอ็มแคทในพื้นที่ ในการดูแลจิตใจผู้ประสบภัยในภาวะฉุกเฉินอย่างเต็มที่


          ในส่วนของประชาชนขอแนะนำให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่มีโอกาสน้ำท่วมซ้ำอีก หรือพื้นที่ที่เสี่ยงเกิดน้ำท่วมใหม่ติดตามข่าวสารประกาศเตือนภัยจากทางราชการเป็นหลัก เพื่อลดการตื่นตระหนกและความวิตกกังวล ขอให้ตั้งสติและคิดถึงความปลอดภัยของชีวิตในครอบครัวไว้ก่อนและให้ปฏิบัติดังนี้


          1.ครอบครัวที่มีเด็ก ผู้ปกครองควรพูดคุยกับเด็กให้รับรู้ความเป็นไปได้ของภัยน้ำท่วมที่จะเกิดขึ้น


          2.ให้เตรียมแผนการรับมือไว้ล่วงหน้า กำหนดหน้าที่ของสมาชิกในครอบครัว ซักซ้อมความเข้าใจ หากเกิดน้ำท่วมขึ้นจริงจะสามารถดำเนินการตามแผนที่วางไว้ได้ทันที


          3.เตรียมอุปกรณ์จำเป็นเช่นไฟฉาย สำรองสิ่งของยังชีพทั้งอาหารและน้ำดื่ม น้ำใช้  เสื้อผ้าของใช้จำเป็นให้ใช้ได้อย่างน้อย 3 วัน เพื่อการยังชีพ เอาตัวรอดในภาวะฉุกเฉิน


          4.เคลื่อนย้ายทรัพย์สินที่มีค่าไว้ในที่สูงหรือปลอดภัย และจัดเก็บเอกสารสำคัญไว้ในหีบห่อที่กันน้ำได้ และหยิบฉวยได้ง่ายเมื่อเกิดเหตุ


          5.วางแผนการเคลื่อนย้ายผู้ที่ช่วยเหลือตนเองได้น้อย เช่น ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ไว้ให้พร้อม


          6.ผู้ที่มีโรคประจำตัวทุกโรคทั้งโรคทางกายและโรคทางจิตใจ ขอให้จัดเตรียมยาที่กินประจำไว้ใกล้ตัว หยิบฉวยได้ง่ายในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เพื่อป้องกันอาการกำเริบจากการขาดยา และ 7.ควรจดเบอร์โทรฉุกเฉินของหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะด้านสุขภาพและความปลอดภัยไว้ประจำบ้าน ได้แก่  สายด่วนสุขภาพจิต 1323,สายด่วนกู้ชีพ 1669, สายด่วนนิรภัย1784 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยหรือปภ. หากเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถโทรขอรับความช่วยเหลือได้ทันที


  "การเตรียมความพร้อมรับมือกับภาวะน้ำท่วมไว้ล่วงหน้าทั้งในระดับบุคคลและครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญมาก จะช่วยป้องกันตัวเองและความเสียหายจากน้ำท่วมป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพจิตที่ได้ผลดีมาก เพราะจะช่วยลดความสับสน ลดความรุนแรงจากการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินลงได้มากผลกระทบทางจิตใจโดยเฉพาะความเครียดจะลดน้อยลง ซึ่งมีผลดีช่วยให้ผู้ประสบภัยฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วในภายหลัง" อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าว

Shares:
QR Code :
QR Code