แนะดูแลสุขภาพฟันดีในผู้สูงอายุ
ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
แฟ้มภาพ
สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการแนะดูแลสุขภาพฟันดีในผู้สูงอายุ
นายแพทย์พรณรงค์ ศรีม่วง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า ผู้สูงอายุต้องได้รับการดูแลสุขภาพช่องปากที่ถูกต้องในเบื้องต้น เพื่อสร้างสุขอนามัยที่ดี ปัจจุบันสัดส่วนของประชากรที่มีอายุมากกว่า 60 ปี มีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้น ในแต่ละปี ทั้งจำนวนและอายุเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งปัญหาสุขภาพในช่องปากพบได้มากในผู้สูงอายุ 7 อันดับได้แก่ ฟันผุ รากฟันผุ เหงือกอักเสบ ภาวะน้ำลายแห้ง มะเร็งช่องปาก ฟันสึก โรคช่องปากที่เกี่ยวกับโรคเบาหวาน และนำไปสู่การสูญเสียฟันในที่สุด ดังนั้นการดูแลสุขภาพช่องปากจึงมีความสำคัญต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ และคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ
การดูแลสุขภาพช่องปากควรเริ่มจากการดูแลความสะอาดของฟัน อุปกรณ์ทำความสะอาด ควรเลือกด้ามจับที่ถนัดมือ ตัวแปรงควรมีขนาดเหมาะกับช่องปาก ขนแปรงนิ่ม ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันเมื่อขนแปรงบานหรือมีอายุการใช้งาน 2-3 เดือน สำหรับผู้สูงอายุที่ใส่ฟันปลอม ควรทำความสะอาดฟันปลอม ด้วยการแช่ในน้ำสะอาด และควรถอดฟันปลอมอย่างน้อย วันละ 4-8 ชั่วโมง ไม่ควรใส่ฟันปลอมนอน เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อราในช่องปากได้ นอกจากนี้ผู้สูงอายุอาจเลือกใช้เครื่องมือช่วยทำความสะอาดฟันเพิ่มเติม เช่น แปรงซอกฟัน ทำความสะอาดฟันที่เป็นช่อง มีเหงือกร่นหรือฟันห่าง รวมถึงการทำความสะอาดกระพุ้งแก้มไปจนถึงโคนลิ้น เพื่อขจัดอาหารและคราบจุลินทรีย์ที่ตกค้าง และควรรับประทานอาหารเป็นมื้อไม่กินจุบจิบ เพื่อลดการตกค้างของเศษอาหารบริเวณช่องปาก สำหรับผู้สูงอายุที่ชอบรับประทานอาหารระหว่างมื้อ ควรเลือกอาหารกลุ่มธัญพืช ถั่ว นม และผลไม้ที่รสไม่หวานจัด เช่น ฝรั่ง พุทรา ชมพู่ มันแกว เป็นต้น เพราะนอกจากจะมีผลดีต่อช่องปากและฟันแล้ว ยังมีวิตามินและเกลือแร่ต่าง ๆ รวมทั้งมีเส้นใยช่วยให้ลำไส้ทำงานได้อย่างปกติ ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เช่น การสูบบุรี่ การเคี้ยวหมาก การรับประทานอาหารที่มีรสหวานหรือมีแป้งและน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ และควรรับการตรวจสุขภาพช่องปากที่สถานพยาบาลเป็นประจำทุก 6 เดือน