แนวปฏิบัติเพื่อการก้าวข้ามและเรียนรู้ไปกับลูกหลาน LGBTQIA

ที่มา: คู่มือแนวปฏิบัตติสำหรับครอบครัวที่มีบุตรหลานเป็นกะเทย มูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน

  • ใช้คนกลางเป็นตัวกลางพูดคุย เพื่อลดการใช้อารมณ์และการกระทบกระทั่ง เช่น ญาติ พี่น้อง ผู้ใหญ่ ที่ยอมรับในตัวตนกะเทย มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และการเปลี่ยนวิธีคิดที่เริ่มยอมรับกะเทย
  • ไม่เปรียบเทียบลูกหลานของตนกับลูกหลานของคนอื่น ๆ ส่งเสริมการรู้คุณค่าในตนเอง เพราะการเปรียบเทียบจะสร้างความกดดันให้ลูกหลาน และผลักให้เขาไม่อยากเปิดใจกับเรามากยิ่งขึ้น
  •  มีการสื่อสารระหว่างกัน โดยเน้นการสื่อสารเชิงบวก คือ มองประโยชน์มากกว่าโทษหรือผลเสียที่จะเกิดขึ้น ไม่หลีกเลี่ยงสถานการณ์ หรือปฏิเสธความจริงที่ลูกหลานของเราเป็นกะเทยหรือคนข้ามเพศ เพราะอาจส่งผลต่อเรื่องความเชื่อมั่น และพื้นที่พึ่งพิงทางใจ แต่หากยังไม่พร้อมที่จะยอมรับและสนับสนุนอาจใช้ความละมุนละม่อม อดทนในการขอเลื่อนการพูดคุยกับลูกหลานออกไปพร้อมให้เหตุผลประกอบ
  •  มีความละเอียดอ่อนต่อประเด็นเรื่องเพศ ไม่ใช่เฉพาะกะเทยหรือคนข้ามเพศ แต่หมายถึงทุกคน รวมถึงผู้ชาย และผู้หญิงด้วย ซึ่งไม่ใช่ปฏิบัติแตกต่างจนรู้สึกแปลก อาจใช้จินตนาการเข้าช่วยว่าเราอยากให้คนปฏิบัติแบบไหนกับเรา
  •  ให้ความสำคัญกับความสนใจและความถนัดของลูกหลาน ชื่นชมในสิ่งที่ทำได้ดี แต่ไม่ใช่เยินยอเกินจริง เพราะอาจส่งผลตรงข้าม
  •  เป็นผู้ฟังที่ดี เปิดสมองเพื่อรับฟังข้อมูลและเรื่องราว เปิดใจเพื่อรับรู้ความรู้สึก และให้คำแนะนำเมื่อลูกหลานต้องการ อาจเป็นสิ่งที่เรารู้ เข้าใจ แต่ถ้าไม่พร้อมอาจบอกตามตรง เพื่อหาข้อมูลจากแหล่งความรู้ภายนอกเพิ่มเติม เช่น การปรึกษากับองค์กรที่ทำงานกับกะเทย อาทิ มูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน Gender Variation (Gen-V) คลินิกของคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี
  •  ใช้คำถามปลายเปิด เพื่อช่วยให้อีกฝ่ายได้พูด ได้เล่าเรื่องราวในการถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของลูกหลาน เช่น ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง พยายามเลี่ยงคำถามปลายปิด เพราะบางครั้งจะคล้ายการคาดคั้นหาคำตอบมากเกินไป จนทำให้อีกฝ่ายไม่อยากตอบ เช่น ทำไมเพราะอะไร ทำไมถึงคิดอย่างนี้ ทำไมถึงทำอย่างนั้น การพูดคุยอาจมีมากกว่าหนึ่งครั้ง เพราะการยอมรับและเข้าใจต้องอาศัยเวลา จึงไม่ควรรีบร้อนหาข้อสรุป ควรให้เวลาแต่ต้องมีเป้าหมายชัดเจน คือ การพูดคุยเพื่อการยอมรับซึ่งกันและกัน
  •  ให้โอกาสลูกหลานได้มีการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ โดยที่พ่อแม่ผู้ปกครองเป็นผู้ดูแลอยู่ห่าง ๆ และให้การช่วยเหลือเมื่อจำเป็น ให้บ้านเป็นสถานที่ในการพักผ่อน และเป็นที่พึ่งพิงทางใจสำหรับลูกหลาน หาเวลาในการใคร่ครวญ ถามตอบความรู้สึกของตนเองเป็นระยะว่าพร้อมหรือไม่ที่จะค้นหาคำตอบและก้าวข้ามไปพร้อมกับลูกหลาน รวมถึงการถามตนเองว่าการยอมรับนั้นจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง หรือเกิดประโยชน์อะไรขึ้นบ้างกับลูกหลานและครอบครัวของเรา
Shares:
QR Code :
QR Code