แนวทางการศึกษาใหม่ เน้นเปลี่ยนแปลงในห้องเรียน
กระทรวงศึกษาธิการเทิดพระเกียรติ "สมเด็จพระเทพฯ" ครูผู้ยิ่งใหญ่ "ณรงค์" ย้ำอีกครั้ง ปฏิรูปการศึกษาครั้งนี้ไม่เน้นโครงสร้าง มุ่งสร้างความเปลี่ยนแปลงในห้องเรียน
อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 2 เมษายน พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการเป็นประธานในพิธีเปิดงานสานพลังเรียนรู้ครูนักปฏิบัติ: คืนความสุขสู่ผู้เรียน จัดโดยสำนักงานกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษา(สกศ.)สำนักงานปลัด ศธ.มูลนิธิสถาบันวิจัยระบบการศึกษา พร้อมกล่าวตอนหนึ่งว่า ในวันที่ 2 เมษายนนี้ ตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของครูผู้ยิ่งใหญ่ นั่นคือ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
โดยพระองค์ท่านทรงเป็นครูมา 30 กว่าปีในโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ทั้งยังทรงดูแลโรงเรียนจิตรลดา และโรงเรียนต่างๆ ที่สำคัญพระองค์ทรงติดตามการจัดการศึกษาทั่วประเทศโดยเฉพาะในถิ่นทุรกันดารที่ไม่มีใครอยากไปเป็นครูเพราะเดินทางยาก มีแต่เด็กมอมแมม แต่พระองค์ก็เสด็จฯ ไปทุกแห่ง และจากที่ตนได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯหลายครั้ง จึงมีโอกาสได้เห็นความทุ่มเทของพระองค์ และความใส่พระราชหฤทัยที่ทรงมีต่อผู่บริหารโรงเรียน ไม่เว้นกระทั่งครูเล็กๆ ก็ยังทรงจำได้
พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวต่อว่า การปฏิรูปการศึกษาของประเทศไทยในเวลานี้นั้น สภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และคณะรัฐมนตรีกำลังดำเนินการเพื่อวางรากฐานการศึกษาไทยให้มั่นคงในระยะยาว อย่างไรก็ตาม แนวทางปฏิรูปการศึกษาที่ ศธ.ดำเนินการนั้น จะมุ่งสร้างให้เกิดความเปลี่ยนแปลงจากภายในห้องเรียน หรือเรียกว่าเป็นการปฏิรูปภาคปฏิบัติ เน้นปรับการเปลี่ยนการสอนของครูที่จะมีผลต่อนักเรียน มากกว่าปรับโครงสร้าง
"คนที่ติดตามการปฏิรูปการศึกษาจากภายนอกอาจไม่เห็นความเคลื่อนไหวมากนัก และมองว่ากระทรวงประกาศปฏิรูปมาหลายเดือนแต่ถึงเวลานี้ยังดูเงียบอยู่เพราะส่วนใหญ่คิดว่าการปฏิรูปการศึกษาคือต้องปรับโครงสร้าง ต้องแยกองค์กร ซึ่งตรงนี้จะยังไม่เกิดขึ้นและอาจไม่เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ และในความจริงศธ.ปฏิรูปมาต่อเนื่องเริ่มจากจุดเล็กๆ จากห้องเรียนโรงเรียน ไม่ได้เริ่มจากข้างบนหรือโครงสร้าง ทำให้คนภายนอกไม่เห็นแรงกระเพื่อม แต่คนในวงการการศึกษาจะทราบ" ปัจจัยสำคัญของความสำเร็จในการปฏิรูปการศึกษาคือการพัฒนาครู เพราะคุณภาพครูมีผลต่อคุณภาพของนักเรียน ซึ่ง ศธ.ก็ได้เตรียมการปฏิรูปการผลิตและพัฒนาครูด้วย โดยในปีการศึกษา 2558 จะเริ่มรับนักศึกษาเข้าโครงการคุรุทายาท(พัฒนาชีวิตด้วยการเรียนรู้)ขณะเดียวกันก็จะเตรียมพัฒนาครูผ่านระบบสารสนเทศ แทนการให้ครูต้องออกมาอบรมในโรงแรมซึ่งเสียทั้งเวลาและงบประมาณทั้งยังเป็นการทิ้งห้องเรียนอีกด้วย" พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก