แถลงข่าว…งานช้างและงานกาชาดสุรินทร์ปลอดเหล้า

สสส.โชว์สถิติ เรื่องดีดีที่เกิดหลังจัดงานปลอดเครื่องดื่มมึนเมา

           

แถลงข่าว…งานช้างและงานกาชาดสุรินทร์ปลอดเหล้า

 

เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2553 ที่ผ่านมา จังหวัดสุรินทร์ นำโดย นายเสริม ชัยณรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมกับ ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ตัวแทนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เข้าร่วมแถลงข่าวงานช้างและงานกาชาดสุรินทร์ปลอดเหล้า ซึ่งได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทุกแขนง ร่วมแถลงข่าวและประชาสัมพันธ์ด้วย และที่สร้างความสนใจแก่ผู้เข้าร่วมงานแถลงข่าวในวันนั้น คือ ลูกช้างฝาแฝดคู่แรกของโลก ชื่อ ทองคำ กับ ทองแท่ง มาร่วมสร้างสีสันในการแถลงข่าวครั้งนี้ด้วย

 

แถลงข่าว…งานช้างและงานกาชาดสุรินทร์ปลอดเหล้า

 

งานช้างและงานกาชาดสุรินทร์ จะจัดขึ้นในวันที่ 11 – 22 พฤศจิกายน 2553 ณ สนามกีฬาศรีณรงค์ ภายในงานมีการจัดนิทรรศการ การออกร้านของส่วนราชการ การจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ otop การแสดงดนตรีชื่อดัง และการออกร้านกาชาด พิธีเปิดงานจะมีขึ้นในวันที่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2553 เวลา 16.30 น. บริเวณร้านกาชาด สนามกีฬาศรีณรงค์  

 

 แถลงข่าว…งานช้างและงานกาชาดสุรินทร์ปลอดเหล้า

 

ด้าน สสส.ได้นำเอาสถิติต่างๆ ในปีที่ผ่านมา เสนอให้เห็นภาพการจัดงานปลอดเหล้าแล้วดีอย่างไร เพื่อให้ผู้ร่วมงานและประชาชนทั่วไปที่สนใจได้รับทราบข้อมูลดีๆ ด้วยทางหนึ่ง เพื่อจะได้ร่วมด้วยช่วยกันประชาสัมพันธ์ลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อไป

 

รายละเอียดผลการศึกษา เรื่อง “จัดงานช้างปลอดเหล้า แล้ว…ดีอย่างไร?” มีดังนี้ ด้านแรกคือ ช่วยลดอัตราการก่อเหตุความรุนแรงภายในงาน เช่น ในปี 51 พบอัตราการเสียชีวิต 3 ราย และในปี 52 ไม่พบว่ามีผู้เสียชีวิต ส่วนอัตราการบาดเจ็บ ปี 51 มีทั้งสิ้น 139 ราย และในปี 52 พบเพียง 65 ราย ลดลงจากปีก่อนถึง 53% ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในปี 52 ยังพบว่า อัตราการบาดเจ็บในช่วงงานช้าง ที่มีสาเหตุมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีทั้งสิ้น 81.5 % (53 ราย) และพบว่า ผู้ก่อเหตุ 88 % อยู่ในช่วงวัยรุ่น และวัยใช้แรงงาน อายุระหว่าง 15 25 ปี ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่า ยังมีผู้ละเมิดนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปในบริเวณงานอยู่บ้าง ผ่านแม่ค้ารายย่อยที่จำหน่ายในงาน ทั้งแอบซ่อนไปกับนักท่องเที่ยวที่เป็นผู้หญิง มีการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์จากขวดเหล้า เป็นใส่ขวดน้ำโพราริส และมีการโยนข้ามกำแพงส่งให้กัน เป็นต้น

 

ด้านที่สอง ด้านสังคมและทัศนะคติ จากผลการศึกษาพบว่า การจัดงานช้างปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้มีการท่องเที่ยวแบบครอบครัวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผู้ปกครองคลายความกังวลใจเกี่ยวกับความปลอดภัยของบุตรหลานและของตนเองที่จะเข้ามาเที่ยวงานมากขึ้น พ่อค้าแม่ค้าสามารถค้าขายกันได้ยาวนานขึ้น เนื่องจากกลัวว่าจะมีการทะเลาะวิวาทเกิดขึ้น โดยปกติจะปิดร้านกันประมาณ 4 ทุ่ม แต่ตอนนี้ได้ขยายเวลาปิดออกไปเป็นประมาณเที่ยงคืนตี1 ซึ่งผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วไป ในการจัดงานช้างปลอดเหล้า ปี 51 แสดงความเห็นด้วยให้จัดงานช้างปลอดเหล้าถึง 95 % ส่วนในปี 52 แสดงความเห็นด้วยเต็มที่ 100 % เต็ม แสดงให้เห็นว่า ชาวสุรินทร์มีความตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อีกทั้ง การประชาสัมพันธ์ที่ดีและต่อเนื่อง ยังช่วยให้เกิดการมีส่วนร่วมกันของคนสุรินทร์ในทุกระดับ

 

ผลสำรวจข้อสุดท้ายกับคำถามที่ว่า สิ่งดีๆ จากการจัดงานปลอดเหล้า เกิดขึ้นได้อย่างไร สรุปได้ว่า เนื่องจากจังหวัดสุรินทร์มีนโยบายที่ชัดเจน ในการรณรงค์ให้การจัดงานบุญ งานประเพณีต่างๆ ในจังหวัด ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมระหว่างพนักงาน เจ้าหน้าที่ และภาคประชาชน ได้ร่วมกันรณรงค์ เฝ้าระวัง บังคับ และควบคุมตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปี 51 อย่างเข้มข้น และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมรณรงค์ ติดป้ายประชาสัมพันธ์เชิญชวนเที่ยวงานช้างปลอดเหล้า

 

            การรณรงค์ลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในจังหวัดสุรินทร์จะสำเร็จได้ ก็ด้วยความร่วมมือกันของทุกฝ่าย โดยเฉพาะท่านพ่อเมืองที่เป็นแกนหลักในการสนับสนุน รวมทั้ง องค์การ หน่วยงานเครือข่ายต่างๆ ร่วมกันทำงานกันอย่างแข็งขันและต่อเนื่อง ที่สำคัญที่สุดคือ ชาวสุรินทร์เอง ที่เห็นความสำคัญของผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และช่วยกันผลักดันจนเกิดเป็น “งานช้างและงานกาชาดสุรินทร์ปลอดเหล้า” ขึ้นมาในที่สุด

 

 

 

 

ที่มา : ศูนย์ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ภาคอีสานตอนล่าง

เรียบเรียงโดย : ศิรินทิพย์ อิสาสะวิน teamcontent www.thaihealth.or.th

 

 

 

update : 05-11-53

อัพเดทเนื้อหาโดย :  ศิรินทิพย์ อิสาสะวิน

 

           

 

Shares:
QR Code :
QR Code