ที่มา :  เดลินิวส์

ภาพประกอบจาก แฟนเพจ เทศบาล 4 (ภูมินทร์ราษฎร์นุกูล)

จบไปแล้วกับการแข่งขันจักรยานทรงตัวเด็กสนามประจำประเทศไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ประจำปี 2562 "The Mall Shopping Center Presents Strider Cup Thailand 2019" เพื่อเฟ้นหาตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันระดับเอเชียในสนาม Strider Cup Asian Championships 2019 ณ เมืองชิงเต่า สาธารณรัฐประชาชนจีน

The Mall Shopping Center Presents Strider Cup Thailand 2019 เป็นความร่วมมือกันระหว่าง เดอะมอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์, บริษัท บีเคเค สไตรเดอร์ จำกัด, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ภายใต้คอนเซปต์ "This is Thailand"เพื่อสะท้อนเอกลักษณ์และตอกย้ำความเป็นสนามประจำประเทศไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี เพื่อกระตุ้นให้เด็กได้ทำกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวด้านร่างกาย ช่วยให้เด็กสามารถฝึกการทรงตัวเสริมทักษะด้านกีฬา ความคิด การมองเห็น และยังมีส่วนช่วยส่งเสริมสถาบันครอบครัวให้เด็กและผู้ปกครองได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ตลอดจนเพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้พัฒนาศักยภาพให้ก้าวสู่การแข่งขันในระดับสากล โดยผู้ชนะเลิศในปีนี้ ได้แก่ น้องเฮียอัษฎ์-ด.ช.อังกรู  นฤพัคโภคิน อายุ 5 ขวบ จากโรงเรียนประสาทวิทยา นนทบุรี

ภายในงานยังมีการแข่งขันอีกหลายรุ่น อาทิ รุ่น 2 ขวบ, รุ่น 3 ขวบ, รุ่น 4 ขวบ, รุ่น 5 ขวบ, รุ่น 6 ขวบ, รุ่นโอเพ่นคลาส (คละอายุ 2-6 ขวบ), และรุ่น 14x ขนาดล้อใหญ่ขึ้น สามารถปั่นและไถล้อได้ (คละอายุ 3-6 ขวบ) นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกอีกมากมาย อาทิ สนาม สไตรเดอร์สำหรับนักกีฬาตัวน้อยได้ฝึกทักษะก่อนลงแข่งขัน, กิจกรรมเวิร์ก ช็อปวาดภาพระบายสี, เพนท์หน้า เป็นต้น

คุณอัษฎาภรณ์  มณีวรรณ คุณแม่ ด.ช.อังกรู ผู้ชนะเลิศรุ่น The Best Strider Rider of Thailand กล่าวว่า น้องเฮียอัษฎ์เริ่มฝึกเล่นสไตรเดอร์ อย่างจริงจังตั้งแต่ตอนอายุ 1 ขวบ 7 เดือน เนื่องจากคุณแม่อยากให้น้องออกกำลังกาย เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านการทรงตัว การเคลื่อนไหว และพัฒนากล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ พาน้องเข้าร่วมการแข่งขันทุกปี สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ดีใจมากที่น้องสามารถคว้าแชมป์กลับบ้าน และยังได้รับโอกาสเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันระดับเอเชีย ที่ประเทศจีนอีกด้วย

นาวาตรี วรวิทย์ เตชะสุภากูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า เป้าหมายโครงการไม่ได้อยู่ที่ผลการแข่งแพ้หรือชนะ แต่เป็นการเน้นให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ที่จะทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น และได้เรียนรู้เรื่องการรู้แพ้ รู้ชนะ และการรู้จักให้อภัย และที่สำคัญกิจกรรมยังช่วยส่งเสริมให้เด็ก ๆ  ได้ออกกำลังกาย ส่งผลให้มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง และเป็นกำลังของชาติในอนาคต