“แกงป่า” อาหารไทยพื้นบ้านมากประโยชน์
เว็บไซต์มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)
เข้าหน้าฝนทีไร หลายคนก็ไอ จาม กันเป็นแถวๆ ก็ต้องวิ่งโร่ไปพึ่งหมอกัน บ้างคนก็หมอจริง บ้างคนก็หมอตี๋ แต่ใครจะรู้บ้างหรือไม่ว่า อาหารไทยพื้นบ้านที่คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยใส่ใจนั้น อุดมด้วยสมุนไพรนานาชนิด “สุขสาระ” เดือนนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับความดีของแกงป่ากัน
แกงป่าเป็นอาหารไทยที่มีรสชาติเผ็ดร้อน ช่วยไล่ลม ขับเหงื่อ ทำให้เลือดลมหมุนเวียนดี จัดอยู่ในประเภทแกงที่ไม่มีกะทิ จึงเป็นอาหารที่มีไขมันต่ำ แต่มีใยอาหารสูง โดยเฉพาะจากมะเขือพวง มะเขือเปราะ ใบกะเพรา กระชาย และมีเครื่องเทศสมุนไพรเป็นส่วนประกอบหลายชนิดเช่น พริกแห้ง พริกขี้หนูสด พริกไทย กระเทียม ข่า ตะไคร้ มะกรูด กะเพรา กระชาย ฯลฯ เป็นอีกหนึ่งเมนูสุขภาพสำหรับทุกคนโดยเฉพาะผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก และผู้เป็นเบาหวานเพราะช่วยลดการดูดซึมของน้ำตาล และไขมัน
– พริกไทย ช่วยในเรื่องของการย่อยอาหาร ขับลม ขับเหงื่อ บรรเทาความร้อนในร่างกาย
– กระชาย ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้ไข้ ลดการอักเสบต้านเชื้อรา แบคทีเรีย
– พริกขี้หนู ทำให้เจริญอาหาร ขับลม ขับเสมหะสารแคปไซซินในพริกช่วยป้องกันการเกิดมะเร็ง
– กะเพรา ช่วยขับเหงื่อ แก้ไข้ ขับเสมหะ ขับลม แก้ปวดท้อง แก้ท้องเสีย ช่วยย่อยไขมัน แก้อาการจุกเสียด
– กระเทียม มีสรรพคุณขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ขับเสมหะ ขับเหงื่อ ลดไขมัน
– มะกรูด ช่วยขับลม แก้ไอ ขับเสมหะ
– ตะไคร้ ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับปัสสาวะ
แกงป่าจึงเป็นอาหารที่ช่วยเรื่องระบบการย่อย มีความเผ็ดร้อน รับประทานได้ทั่วไป ในฤดูหนาวหรือวันที่มีอากาศเย็น จะช่วยเพิ่มความร้อนให้กับร่างกาย มีจุดเด่นที่สามารถเติมส่วนผสมประเภทโปรตีนหรือเนื้อสัตว์ได้ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น ปลา เนื้อ ไก่ กุ้ง ส่วนประกอบของแกงป่ายังช่วยลดกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี