เหมือนได้สามีใหม่ เพราะสามีเลิกเหล้า

เปิดผลสำรวจทุกข์ภรรยา-คู่รัก น้ำเมาเป็นเหตุ นิยมความรุนแรง บังคับมีเพศสัมพันธ์ เกินครึ่งเครียดวิตกกังวล  จำใจทนเพื่อลูกและครอบครัว  ด้านหัวอกภรรยาเปิดใจ  สามีหยุดสุราเหมือนได้สามีใหม่ คืนความสุขให้ทุกคนในบ้าน คุณภาพชีวิตดี เงินเหลือเก็บไม่เจ็บตัว


เหมือนได้สามีใหม่ เพราะสามีเลิกเหล้า thaihealth


เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2558 เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมเอบีน่าเฮาส์ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ร่วมกับ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรมรณรงค์งดเหล้าครบพรรษา ภายใต้แคมเปญ “เหมือนได้สามีใหม่ เพราะสามีเลิกเหล้า”


นางสาวจรีย์   ศรีสวัสดิ์ ฝ่ายส่งเสริมภาคีเครือข่าย มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวในเวทีเสวนา “หัวอกภรรยากับสามีนักดื่ม…กับทุกข์ที่ก้าวผ่าน” โดยเปิดผลสำรวจความคิดเห็นกลุ่มผู้หญิงที่แต่งงานแล้วหรือกลุ่มคู่รัก จำนวน 1,300 ตัวอย่าง ต่อกรณีปัญหาผลกระทบจากสามีคนรักที่เป็นนักดื่ม ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด ช่วงเดือนกรกฎาคม 2558 พบว่า สามีหรือคนรัก ต่างมีพฤติกรรมดื่มเหล้าสูงถึง71.6%  อีก22.8% เคยดื่มแต่เลิกแล้ว มีเพียง5.6%เท่านั้นที่ไม่เคยดื่มเหล้าเลย นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ต้องเผชิญปัญหาที่สามีหรือคนรักดื่มเหล้าทั้งความรุนแรงในครอบครัวด้านร่างกายและจิตใจ ปัญหาส่วนใหญ่ได้แก่ ดื่มเหล้าเที่ยวกลางคืนกลับบ้านดึก 54.6% มีปัญหาหนี้สิน 47.5%  ชวนเพื่อนตั้งวงดื่มส่งเสียงดัง 47.3%  ขี้โมโหก้าวร้าว 45.2%  แต่ที่น่าห่วงคือ 27.6% ต้องเผชิญปัญหาเมาแล้วทำร้ายร่างกาย และกว่า 18.3% ถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์


นางสาวจรีย์  กล่าวต่อไปว่า กลุ่มตัวอย่างเกินครึ่งหรือ 59.3 วิตกกังวล เครียดที่ได้รับผลกระทบจากการดื่มเหล้า ที่สามีหรือคนรักมีปัญหาสุขภาพ ขาดสติ   และ1ใน3 ควบคุมตัวเองไม่ได้ ติดเพื่อน ไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัว เกิดอุบัติเหตุ  สำหรับวิธีแก้ปัญหาผู้ตอบแบบสอบถาม  23.5% เลือกที่จะอดทนเพื่อลูกเพื่อครอบครัว   รองลงมา20.8% เปิดใจคุยให้สามีเลิกเหล้า นอกนั้นหาคนพูดคุยเพื่อระบายทุกข์ ใช้ศาสนาเป็นที่พึ่ง ขณะเดียวกันยังมีอีก 8.4%เลือกใช้วิธีดื่มเหล้าประชด และ5.6%ใช้วิธีการโต้กลับด้วยความรุนแรง ทั้งนี้จะเห็นว่า ความคาดหวังของผู้หญิงต่างอยากให้สามีปรับพฤติกรรม ด้วยการเลิกดื่มเหล้าตลอดไปถึง 26.9% หันมารับผิดชอบครอบครัว 22.4% งดเหล้าเข้าพรรษา18.3%  มีเวลาให้ลูก-เมีย 18.2% และช่วยงานบ้าน 14.2%


 “การดื่มเหล้าของสามีหรือคนรัก ส่งผลกระทบเกิดความรุนแรงในครอบครัวทั้งด้านจิตใจ ร่างกาย จนถึงการบังคับมีเพศสัมพันธ์ พฤติกรรมเหล่านี้สะท้อนระบบชายเป็นใหญ่ ทั้งการทำลายข้าวของ โวยวาย ซึ่งผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่กล้าโต้ตอบ ด้วยความรู้สึกว่าสามีเป็นผู้นำครอบครัว และการที่ผู้ชายนิยมดื่มเหล้า ก็มาจากการถูกหล่อหลอม ถูกชักชวนจากสื่อโฆษณาต่างๆ ทำให้มีทัศนคติว่าผู้ชายกับการดื่มเหล้าถือเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม ภรรยาส่วนใหญ่คาดหวังอยากให้สามีเลิกเหล้า แล้วหันมาดูแลรับผิดชอบครอบครัว ช่วยงานบ้าน ไม่มองว่าเรื่องการดูแลครอบครัวเป็นเรื่องของภรรยาฝ่ายเดียว ซึ่งก็มีสามีหลายคนที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ ทำให้ภรรยารู้สึกดีใจและสะท้อนว่า “เหมือนได้สามีใหม่”  เป็นคนที่รับผิดชอบครอบครัว ไม่ใช้ความรุนแรง ให้เกียรติภรรยา ช่วยงานบ้าน ช่วยดูแลลูก และนอกจากนี้ภรรยาเองควรปรับพฤติกรรม เน้นให้กำลังใจสามี ไม่พูดประชดประชันเสียดสี และไม่ตอกย้ำอดีตที่ผิดพลาด เพราะถือเป็นการใช้ความรุนแรงทางวาจาเช่นเดียวกัน ควรเชื่อมั่นว่าพฤติกรรมสามารถเปลี่ยนแปลงได้ และไม่ว่าจะเป็นเพศหญิงหรือเพศชายก็ไม่ควรใช้ความรุนแรงต่อกันทั้งระดับจิตใจ ร่างกาย แต่ควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน” นางสาวจรีย์ กล่าว 


เหมือนได้สามีใหม่ เพราะสามีเลิกเหล้า thaihealth


นางจรรยา ธิตา อายุ 53 ปี ชาวชุมชนฟ้าใหม่ จ.เชียงใหม่ กล่าวถึงช่วงชีวิตที่สามีติดสุราอย่างหนักจนเกือบทำให้ครอบครัวต้องแตกแยกว่า ตนอยู่กินกับสามีมาตั้งแต่ปี2525 หลังเลิกงานเราทั้งคู่จะตั้งวงดื่มเหล้าเป็นประจำกับเพื่อนร่วมงาน แต่เมื่อตั้งท้องก็ต้องหยุดงานไปเลี้ยงลูกที่บ้านเกิด ส่วนสามีก็เริ่มดื่มหนักขึ้น เริ่มเที่ยวเตร่ เล่นการพนัน ไม่ส่งเงินช่วยเลี้ยงดู พอคลอดลูกจึงฝากให้พี่สาวเลี้ยงเพราะต้องช่วยสามีทำงาน ซึ่งตอนนั้นสามีไม่มีท่าทีจะหยุดดื่มเหล้า เงินที่ได้มาไม่เหลือเก็บ มีหนี้สิน มรดกที่ได้2แสนบาทต้องหมดไปกับวงเหล้า หนำซ้ำยังต้องเสียประวัติเพราะคดียาเสพติด และชอบใช้ความรุนแรง โมโหร้าย ทุบตี ไม่นานก็เริ่มมีปัญหาสุขภาพ ป่วยเป็นโรคตับเพราะดื่มสุราหนัก


 “สาเหตุที่สามีหยุดดื่มเหล้าได้ เพราะสุขภาพย่ำแย่และอยากทำเพื่อลูก2คน ขณะที่ไปเข้าค่ายครอบครัวกับทางมูลนิธิก็ได้เรียนรู้และทำกิจกรรมจนเลิกดื่มได้ถาวร ส่วนตนก็คอยให้กำลังใจ และอดทน ไม่ซ้ำเติมไม่พูดเรื่องเก่าๆ รวมถึงชุมชนก็เห็นความตั้งใจสนับสนุนให้กลับมาประกอบอาชีพ ใช้หนี้สินจนหมด สร้างบ้านใหม่ คุณภาพชีวิตเริ่มดีขึ้น ครอบครัวเราไม่ใช่ครอบครัวเก่า แต่เป็นครอบครัวใหม่ที่มีความสุข สามีคนเก่าก็ไม่มี แต่เป็นสามีใหม่ ลูกก็ได้พ่อใหม่ ที่เปลี่ยนเป็นคนละคน ช่วยดูแลลูก ช่วยทำงานบ้าน” นางจรรยา กล่าว


นางวชิราวรรณ  ปั้นทอง  อายุ 48 ปี บ้านคำกลาง ต.โนนหนามแท่ง จ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า เมื่อก่อนสามีติดเหล้ามาก ชาวบ้านเรียกว่าไอ้ขี้เมา ชอบไปเมากับกลุ่มเพื่อนเที่ยวคาเฟ่เที่ยวผู้หญิง ไม่กลับบ้านสองสามวันก็มี ชอบอาละวาด ถ้าไม่พอใจหรือไม่ตามใจก็ทำร้ายร่างกาย ทำลายข้าวของในบ้าน ไม่มีเงินให้ลูกเพราะเอาไปลงกับเหล้าหมด พอช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 40 รายได้น้อยลงมาก ตนเองก็ท้องลูกคนที่ 2 เลยตัดสินใจกลับบ้านมาทำนา ตอนนั้นสามีก็ยังดื่ม เริ่มมีปัญหาสุขภาพ เป็นเบาหวาน ความดัน เนื่องจากติดเหล้ามานาน ต้องกู้ยืมเงินมารักษา แต่ยังไม่เลิกดื่ม


“จุดเปลี่ยนของสามีเพราะได้เริ่มทำงานร่วมกับมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เข้าโครงการลดละเลิกเหล้าลดความรุนแรง เมื่อเห็นถึงผลกระทบและทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามีหันมาสนใจครอบครัวมากขึ้น ช่วยกันทำมาหากิน มีเงินเก็บ หลีกเลี่ยงเพื่อนที่ชวนไปดื่มเหล้า จนสามารถเป็นตัวอย่างให้คนในชุมชนและเป็นนักรณรงค์ลดละเลิกเหล้าได้ในที่สุด อีกทั้งยังรณรงค์ไม่ให้ผู้ชายใช้ความรุนแรงในครอบครัวร่วมกับเครือข่ายชุมชน พร้อมทั้งเปิดศูนย์อาสาช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าวด้วย ส่วนตนก็คอยให้กำลังใจชื่นชม และภูมิใจในตัวสามีที่ปรับปรุงตัวเองได้ ปัจจุบันครอบครัวมีความสุข เหมือนได้สามีคนใหม่เลยทีเดียว” นางวชิราวรรณ กล่าว


 


 


ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข


 

Shares:
QR Code :
QR Code