เหตุใดการหยุดวิ่งกระทันหันจึงอันตรายมาก

ที่มา : เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์


เหตุใดการหยุดวิ่งกระทันหันจึงอันตรายมาก thaihealth


แฟ้มภาพ


          คำอธิบายจาก อ.นพ ธเนศ แก่นสาร แพทย์โรงพยาบาลรามธิบดี ระบุ การหยุดออกกำลังกายกะทันหันทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อร่างกายมาย


          โครงการก้าวคนละก้าวของ "ตูน บอดี้สแลม"กำลังกลายเป็นกระแสอย่างกว้างขวาง โดยเมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้เกิดปัญหาขึ้นกับเจ้าตัว เนื่องจากเกิดอาการบาดเจ็บที่หลังและขา ซึ่งเกิดจากลักษณะการวิ่งที่ไม่ปกติ เนื่องจากตลอดเส้นทางการวิ่งตูนจะเข้าไปทักทาย จับมือประชาชนและรับเงินบริจาค รวมไปถึงต้องถ่ายเซลฟี่ในลักษณะนั่งและก้มเงยตลอดเวลา ทำให้เกิดอาการปวดหลัง และเจ็บขา ต่อประเด็นเรื่องการขอถ่ายภาพกับนักร้องหนุ่มขณะวิ่งซึ่งทำให้ต้องหยุดวิ่งกะทันหันจนเสี่ยงอันตรายนั้น มีการเตือนตั้งแต่เมื่อครั้งดำเนินโครงการครั้งแรกเมื่อปีก่อน


          นพ. ธเนศ แก่นสาร ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้คำอธิบายว่า ระหว่างการออกกำลังกายเส้นเลือดจะมีการสูบฉีด หัวใจเต้นเร็วขึ้น หากหยุดออกกำลังกายกะทันหันจะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจบีบตัวสูบฉีดเลือดมากขึ้น กล้ามเนื้อไม่หดตัวเหมือนเดิม เลือดที่สูบฉีดมายังหัวใจจะน้อยลงแต่หัวใจเต้นเท่าเดิม ทำให้เกิดอาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะอาจทำให้หมดสติได้


          ส่วนการหยุดออกกำลังกายที่ถูกต้องนั้นจะต้องมีการ Cool down ก่อน เพื่อให้กล้ามเนื้อและหัวใจที่ทำงานหนักขณะออกกำลังกายได้ค่อยๆ ทำงานลดจากนั้นร่างกายจะรักษาสมดุลเอาไว้


          การออกกำลังกายที่ถูกต้องประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ได้แก่


          Warm up เริ่มด้วยเดินหรือวิ่งเหยาะ (Jogging) ประมาณ 5-10 นาที ให้ร่างกายเตรียมพร้อม กล้ามเนื้อยืดตัวหดตัว


          Stretching การยืดเหยียด อีกประมาณ 5-10 นาที เพื่อความพร้อมของเอ็น ข้อ และการไหลเวียนโลหิต ป้องกันการบาดเจ็บที่จะเกิดจากการออกกำลังกาย


          Cool down การค่อยๆ ลด หรือผ่อน คือการออกกำลังกายให้เบาลงทีละน้อย จนกระทั่งหายเหนื่อย ทั้งนี้เพื่อให้กล้ามเนื้อและหัวใจที่ทำงานหนักขณะออกกำลังกาย ได้ค่อยๆ ทำงานน้อยลง


          การออกกำลังกายที่เหมาะสมควรคำนึงถึงอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด โดยทั่วไปหัวใจคนเราเต้นสูงสุด 220 ครั้ง/นาที แต่ขึ้นอยู่กับอายุด้วย โดยสามารถคำนวณได้จาก 220 – อายุ แล้วผลลัพธ์ที่ได้คืออัตราของหัวใจที่เต้นเร็วที่สุด และการออกกำลังกายที่ดีก็ไม่ควรเกิน 80% ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดของเรา เช่น ถ้าหากอายุ 20 ปี จะได้อัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดเป็น 220 – 20 = 200 ดังนั้นไม่ควรออกกำลังกายให้หัวใจเต้นเร็วเกิน 160 ครั้ง/นาที


          แต่ในความเป็นจริงไม่มีใครสามารถนั่งนับจังหวะการเต้นของหัวใจตัวเองได้ ดังนั้นการออกกำลังกายที่ดีให้วัดว่าระหว่างออกกำลังกายอยู่นั้นยังสามารถพูดกับคนข้างๆ ได้เป็นคำๆ อยู่หรือไม่ หากเสียงเริ่มสั่น หรือเริ่มพูดไม่เป็นคำ นั่นแสดงว่าคุณออกกำลังกายหักโหมเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายและทำให้กล้ามเนื้อได้รับบาดเจ็บได้ แต่สำหรับอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตนั้นขึ้นอยู่กับตัวบุคคลว่าใครที่มีโรคประจำตัวก็อาจทำให้เกิดความเสี่ยงได้ ดังนั้นก่อนออกกำลังกายควรสำรวจตัวเองก่อนว่าร่างกายพร้อมหรือไม่


          ด้าน “ก้อย” รัชวิน วงศ์วิริยะ หวานใจตูน ระบุผ่านเฟซบุ๊กว่า ใครอยากถ่ายรูปกับพี่ตูน รบกวนมารอตามจุดที่ทีมงานจัดไว้ให้ พี่ตูนจะได้มีแรงวิ่งไปให้ถึงจุดหมายโดยไม่บาดเจ็บ และทุกคนก็จะได้มีรูปเก็บไว้ ถึงแม้อาจจะไม่ได้เซลฟี่ แต่อย่างน้อยก็ให้เราได้มีภาพความทรงจำร่วมกันว่า "ครั้งหนึ่ง…เราเคยก้าวไปด้วยกันจากตรงนี้"


 

Shares:
QR Code :
QR Code