เวลากับใจเพื่อจิตอาสา
หากกล่าวถึงคำว่า “จิตอาสา” พระไพศาล วิสาโล ท่านได้ให้ความหมายว่า “จิตอาสา” คือ จิตที่ไม่นิ่งดูดายต่อสังคมหรือความทุกข์ยากของผู้คน พร้อมทั้งมีความปรารถนาที่จะเข้าไปช่วย โดยการสละเวลาลงแรงช่วยเหลือผู้อื่นด้วยจิตที่เป็นสุข งานจิตอาสาจึงไม่ใช่แค่การทำประโยชน์เพื่อผู้อื่นเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการพัฒนา “จิตวิญญาณ” ภายในตัวตนของเราอีกด้วย
หลายคนคงเคยได้ยินมาว่า ความสุขที่เกิดจากการเป็นผู้ให้เป็นยอดของความสุข และการให้ความสุขเป็นสุดยอดของการให้ แต่หากถามว่าคุณอยากจะทำความดีในรูปแบบจิตอาสาบ้างหรือไม่ ก็มักจะได้คำตอบกลับมาว่า “อยากช่วยแต่ไม่รู้จะช่วยอะไร อยากอาสาแล้วต้องอาสาที่ไหน อยากจะให้แต่ไม่รู้จะให้ใคร”
งาน “คนไทยขอมือหน่อย คนละไม้คนละมือเพื่อสังคมน่าอยู่” โดยมูลนิธิเพื่อ “คนไทย” ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะให้คำตอบสำหรับคนที่อยากจะร่วมเป็นจิตอาสา ได้มีแนวทางปฎิบัติที่ถูกต้องเพื่อการมีส่วนร่วมพัฒนาสังคมให้น่าอยู่
นพ.พลเดช ปิ่นประทีป เลขาธิการสถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนาและประธานการจัดงาน“คนไทยขอมือหน่อยฯ” บอกว่า แม้ว่าปัจจุบันกระแสสังคมต่างๆ ที่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนค่อนข้างมาก แต่กลับเห็นได้ว่าคนไทยยังคงมีเมล็ดพันธุ์ความดี เมล็ดพันธุ์ของการให้ และเมล็ดพันธุ์ของความรัก
“ในแง่มุมของคนไทย เมล็ดพันธุ์แห่งความรักนั้น สะท้อนได้จากรอยยิ้ม ทำให้คนทั่วโลกเรียกประเทศไทยว่าเป็น ดินแดนแห่งรอยยิ้มจนถึงทุกวันนี้ ในส่วนเมล็ดพันธุ์ของการให้นั้น มีผลสำรวจออกมาว่าไทยเป็นประเทศที่มีการบริจาคมากที่สุดในโลก แสดงให้เห็นว่าทั้งความรักและการให้ยังมีอยู่ในคนไทยทุกคน เพียงแต่ว่า เราจะร่วมกันส่งเสริมให้เกิดพลังเหล่านี้มากแค่ไหน”
ประธานการจัดงานฯ ยังบอกอีกว่า หากทุกคนทั้งคิดและลงมือทำเพื่อส่วนรวม ไม่ว่าจะผ่านการลงมือทำด้วยตนเองหรือสละทรัพย์สินเพื่อสาธารณะ ก็จะเป็นสังคมที่เข้มแข็งมีความสามัคคี ดังนั้นการจัดงานในครั้งนี้จึงเป็นแนวทาง และย้ำเตือนให้เห็นเกิดความสำคัญของการมีจิตสาธารณะอย่างเป็นรูปธรรม
ด้านนักพัฒนาสังคมรุ่นใหม่หนึ่งในผู้จัดทำสื่อ “รู้ สู้ Flood” ที่กลายเป็นรู้จักกันอย่างกว้างขวางและเป็นครีเอทีพโฆษณาโครงการ“คนไทยขอมือหน่อยฯ” นายธวัชชัย แสงธรรมชัย บอกว่า คนทุกคนสามารถมีบทบาทในการพัฒนาสังคมในแบบของตัวเองได้ ในแบบที่ตัวเองเป็น ในแบบที่ตัวเองรู้ ในความสามารถที่ตัวเองมี โดยไม่จำกัดว่าคนที่จะมาทำจิตอาสาได้ต้องเป็นคนแบบไหน ซึ่งที่จริงแล้วคนทุกคนคือ กลไกสำคัญที่จะช่วยพัฒนาสังคมของเราให้น่าอยู่ได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการอย่าดูถูกพลังของตัวเอง
เรื่องโดย : กิดานัล กังแฮ Team Content www.thaihealth.or.th