‘เลิกใช้สารเคมีในนาข้าว’ ลดป่วยลดตาย

นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลทุ่งยั้ง เมืองลับแล เผย พื้นที่กว่า 80% ปลูกข้าว และใช้สารเคมีมาก กระทบต่อสุขภาพของเกษตรกรและชาวบ้านที่อาศัยในพื้นที่ วอนช่วยกันเลิกใช้สารเคมีทุกครัวเรือน แนะน้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพ่อหลวงมาใช้เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืน

นายชวลิต ประภัสสร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลทุ่งยั้ง กล่าวว่า เทศบาลตำบลทุ่งยั้ง หรือทุ่งยั้ง-ไผ่ล้อม มีพื้นที่ 8.29 ตารางกิโลเมตร 9 หมู่บ้าน ประกอบด้วย ตำบลทุ่งยั้ง หมู่ที่ 1 บ้านป่าเผือก หมู่ที่ 2 บ้านทุ่งยั้งเหนือ หมู่ที่ 3 บ้านทุ่งยั้งใต้ หมู่ที่ 4 บ้านตาล หมู่ที่ 6 บ้านพระแท่น ตำบลไผ่ล้อม หมู่ที่ 1 บ้านไผ่ล้อม หมู่ที่ 2 บ้านไผ่เขียว หมู่ที่ 3 บ้านเกาะตาเพ็ชร และหมู่ที่ 6 บ้านป่าแดด

พื้นที่ทั้งหมด 80% เป็นพื้นที่การเกษตรปลูกข้าว ส่วนใหญ่การปลูกข้าว เกษตรกรมักจะใช้สารเคมีผสมอยู่ด้วย อาทิ ยาฆ่าแมลง ยาปราบศัตรูพืช ยากำจัดเชื้อราและสารกำจัดแบคทีเรีย และยาฆ่าหอยในนาข้าว ทำให้ส่งผลกระทบต่อมลภาวะของดิน น้ำและอากาศ สารเหล่านี้จะย้อนกลับมาสู่คนในภายหลัง ก่อให้เกิดโรคผิวหนัง โรคกล้ามเนื้อ กระดูก โรคมะเร็ง เนื้องอก อัมพฤกษ์ อัมพาต หัวใจวาย หัวใจล้มเหลวหรือไหลตาย ซึ่งคนลับแลเป็นกันมาก

ทางเทศบาลจึงได้รณรงค์ให้เลิกการใช้สารเคมี โดยจัดทำโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและแผนงานฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ การใช้ชีวพันธุ์เพื่อทดแทนสารเคมีให้เกษตรกรน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาปฏิบัติให้เกิดสัมฤทธิผล เป็นจุดเริ่มต้นของโครงการข้าวเกษตรอินทรีย์ เพื่อใช้ในนาข้าวโดยตรง

“ขอให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวหันมาใช้ปุ๋ยชีวพันธุ์ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใช้สารเคมี ลดอันตรายจากการเจ็บป่วยและเสียชีวิต ช่วยให้สิ่งแวดล้อมปราศจากสารพิษตกค้าง ทำให้ทุกครัวเรือนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

 

 

ที่มา : เว็บไซต์ข่าวสดออนไลน์

Shares:
QR Code :
QR Code