เร่งให้ความรู้บุคลากรทางการแพทย์ ผ่านระบบ OSCC เพื่อส่งต่อไปยังชุมชน

ที่มา : โครงการเสวนา “สร้างเสริมกระบวนการยุติธรรมที่เป็นมิตรต่อทุกเพศสภาพ”


เร่งให้ความรู้บุคลากรทางการแพทย์ ผ่านระบบ OSCC เพื่อส่งต่อไปยังชุมชน thaihealth


กลุ่มสร้างเสริมกระบวนการยุติธรรมเป็นมิตรกับทุกเพศสภาพ แนะการส่งต่อผู้เสียหายตามระบบ OSCC ต้องเร่งให้ความรู้บุคลากรทางการแพทย์ ตั้งแต่ระดับโรงพยาบาลส่งต่อไปถึงชุมชน เพื่อเก็บหลักฐานให้เร็วที่สุด ด้านอัยการชี้ ควรให้เข้าไปมีบทบาทตั้งแต่เริ่มต้นสอบปากคำเพื่อลดความบอบช้ำจากการให้ข้อมูลซ้ำ ๆ


มูลนิธิฟรีดริค เอแบร์ท ประจำประเทศไทย (FES) มูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดโครงการเสวนา “สร้างเสริมกระบวนการยุติธรรมที่เป็นมิตรต่อทุกเพศสภาพ” ที่ สมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์แห่งประเทศไทย ถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ


นพ.วิบูลย์ ทองด้วง รองประธานศูนย์ OSCC โรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์ กล่าวว่า    กระบวนการส่งต่อผู้เสียหายเข้าสู่ระบบ OSCC สิ่งสำคัญคือ บุคลากรในสถานพยาบาลต้องรับทราบว่า ได้ทำการสัมผัสรักษาผู้เสียหายอยู่ จึงได้เริ่มอบรมผู้เกี่ยวข้องในโรงพยาบาลเริ่มตั้งแต่พยาบาล ทีมงานด่านหน้า ห้องตรวจโรคทั่วไปให้เข้าใจถึงผู้เสียหาย เพราะบางครั้งก่อนที่จะมาถึงเรื่องการเก็บหลักฐาน ผู้เสียหายอาจบาดเจ็บรุนแรงมาก่อนได้ ดังนั้นจึงมีเรื่องสำคัญที่ต้องรักษาชีวิตไว้ก่อน จากนั้นโรงพยาบาลจะกระจายความรู้นี้ลงไปสู่โรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง ลงไปถึงอาสาสมัคร (อสม.) ถือเป็นการให้ความรู้กันเป็นทอดๆ อบรมจนเจ้าหน้าที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ


ดร.น้ำแท้ มีบุญสล้าง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาการสอบสวนและการดำเนินคดี สำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า บทบาทของอัยการในการดำเนินคดีทางเพศ เราไม่ต้องการให้ผู้เสียหายเจ็บช้ำจากการดำเนินคดีที่ล่าช้า เนื่องจากการสอบสวนซ้ำซาก ดังนั้นหากอัยการอยู่ร่วมสอบปากคำได้ตั้งแต่ครั้งแรก นำข้อเท็จจริงมาต่อสู้คดีจนจบกระบวนการ จะช่วยลดการตอกย้ำรอยแผลของผู้เสียหาย เพราะต้องยอมรับว่าบางคดีกว่าจะจับผู้ต้องหาได้อาจใช้เวลาหลายปี การมาให้ปากคำใหม่จะย้ำบาดแผล เพราะผู้เสียหายบางคนอาจก้าวไปต่อแล้ว หรือ มีครอบครัวใหม่แล้ว หากให้กลับมาเล่าถึงเหตุการณ์อีกอาจเกิดความไม่สบายใจเพราะไม่อยากให้คนในครอบครัวรู้   อย่างไรก็ตามการลงนามใน MOU ระหว่างอัยการสูงสุดกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและชุมชนเพื่อแก้ปัญหาและอำนวยความยุติธรรมในคดีอาญาจึงมีความสำคัญ ที่จะทำให้อัยการได้ข้อมูลข้อเท็จจริงโดยตรง


เรืองรวี พิชัยกุล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยบทบาทหญิงชายและการพัฒนา (GDRI)    สถานการณ์ความรุนแรงทางเพศที่เกิดขึ้น หากติดตามอย่างตรงไปตรงมาหรือเห็นจากการนำเสนอข่าวจากทางสื่อจะพบว่ามีแจ้งความจำนวนมาก และน้อยรายที่เข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ที่ผ่านมาอาจจะเห็นว่ากระบวนการยุติธรรมไม่เป็นมิตรกับผู้เสียหาย เพราะอาจจะไม่เข้าใจว่าเรื่องการถูกละเมิดทางเพศเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน บางครั้งในกระบวนการสืบสวนสอบสวนมีการถามหลายๆ ครั้ง หรือ ไม่มีฉากกั้น ต้องเผชิญหน้ากับคู่กรณี หรืออาจถูกข่มขู่


ความรุนแรงทางเพศหมายถึง (ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ) หมายถึง การกระทำใดๆ ของความรุนแรงที่ส่งผลหรือมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย ทางเพศ หรือจิตใจ หรือความทุกข์ทรมานต่อสตรีและทุกเพศสภาพ รวมถึงการข่มขู่ต่อการกระทำดังกล่าว การบีบบังคับ หรือการกีดกันตามอำเภอใจของ เสรีภาพไม่ว่าจะเกิดขึ้นในที่สาธารณะหรือในชีวิตส่วนตัว  และกฎหมายไทยกำหนดไว้ใน พรบ.ศาลเยาวชนและครอบรัว และ พรบ. คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว

Shares:
QR Code :
QR Code