เรื่องของคนรักวิ่งใน “ไทยเฮลท์ เดย์ รัน 2018”
เรื่องโดย : กิดานัล กังแฮ Team Content www.thaihealth.or.th
ผ่านไปแล้วสำหรับงานวิ่งสู่ชีวิตใหม่ “ไทยเฮลท์ เดย์ รัน 2018” (ThaiHealth Day Run 2018) โดยปีนี้ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 7 โดยความร่วมมือของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสมาพันธ์ชมรมเดินวิ่งเพื่อสุขภาพไทย เป็นกิจกรรมวิ่งเพื่อสุขภาพระดับชาติที่ร่วมสร้างการมีกิจกรรมทางกายในทุกกลุ่มวัย รวมถึงในปีนี้ยังได้มีการผลักดันงานวิ่งที่มีมาตรฐานตามหลักของสหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ หรือ International Association of Athletics Federations (IAAF)
ทันกระแสสุขภาพวันนี้ ได้รวบรวมความรู้สึกของเหล่านักวิ่งที่มาร่วมวิ่งในงาน “ไทยเฮลท์ เดย์ รัน 2018” รวมถึงประสบการณ์การเริ่มต้นวิ่งที่น่าสนใจ และเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังคิดเริ่มต้นออกมาวิ่ง มาฝากกันค่ะ
เพราะทุกคนต่างมีความตั้งใจในการทำอะไรสักอย่างในชีวิตอยู่แล้ว และเมื่อใดที่เป้าหมายชัดเจน มีแรงบันดาลใจมากพอ เมื่อนั้นเราก็จะเกิดแรงฮึดหรือความตั้งใจที่จะทำเป้าหมายนั้นให้ประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับหนุ่มคนนี้ นายธันวารัตน์ คำจริง วัย 26 ปี หนุ่มที่หลงรักการวิ่งมาราธอน ที่ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 ให้ได้ในงานวิ่งสู่ชีวิตใหม่ “ไทยเฮลท์ เดย์ รัน” และในปีนี้เขาก็ทำได้สำเร็จ
ธันวารัตน์ เล่าให้ฟังว่า ร่วมวิ่งกับงาน ไทยเฮลท์ เดย์ รัน ครั้งนี้เป็นปีที่ 3 โดยปีที่ผ่านมาเข้าเส้นชัยระยะ 10 กม. อยู่ในลำดับ 3 ตอนนั้นก็รู้สึกภูมิใจเช่นกันเพราะมันคือผลของความพยายาม และก็คิดทันทีว่าจะต้องพยายามมากขึ้นอีกเพื่อคว้าที่ 1 ให้ได้ซักครั้งใน ไทยเฮลท์ เดย์ รัน 2018
“การมีวินัยในตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ” หลายคนพอซ้อมมากๆ เริ่มท้อแล้วก็หยุดวิ่งไปก็มี แต่สำหรับตนมองว่ามันคือ ความท้าทายของชีวิต
ตนเริ่มต้นสนใจเรื่องการวิ่งตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ซึ่งคิดว่าเป็นกีฬาที่ทำได้ง่าย พอวิ่งบ่อยมากขึ้นก็เริ่มอยากลองวิ่งระยะไกล และเริ่มศึกษาการวิ่งระยะไกลที่ถูกต้อง เริ่มจัดตารางการซ้อม เพราะเชื่อว่า ความตั้งใจจะสำเร็จได้ก็ย่อมเกิดจากการวางแผนที่ดี เนื่องจากสมองของมนุษย์ไม่สามารถจดจำรายละเอียดอะไรได้หมดทุกอย่าง การสร้างตารางสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันคือ สิ่งที่ช่วยได้เป็นอย่างดี
ทำไมต้องมาวิ่งกับ งานวิ่งสู่ชีวิตใหม่ “ไทยเฮลท์ เดย์ รัน” ?
“เพราะเป็นสนามที่นักวิ่งทุกคนต้องมาวิ่ง และยังถือเป็นก้าวแรกของคนที่อยากจะเข้าสู่วงการวิ่ง เพราะจะเห็นว่ามีคนทุกเพศทุกวัยที่หันมาออกกำลังกาย ตั้งแต่เด็ก วัยเยาวชน ไปจนถึงวัย 60 ปีขึ้นไป หลายคนเริ่มวิ่งกันครั้งแรกในงานนี้ และหลังจากนั้นพวกเขาก็วิ่งกันมาเรื่อย ๆ”
รู้สึกอย่างไร? เมื่อรู้ว่าตนวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกในงาน “ไทยเฮลท์ เดย์ รัน 2018”
“มีความสุขและภูมิใจในตนเองที่สามารถทำตามเป้าหมายได้สำเร็จ และเข้าใจถึงคำที่คนมักพูดว่า…ถ้าคนเราพยายามทำอะไรอย่างเต็มที่ สิ่งนั้นก็จะสำเร็จได้จริง… และหากถามว่าได้ที่ 1 แล้วปีหน้าจะยังมาวิ่งอีกหรือไม่ คำตอบคือ ก็จะยังมาวิ่งในทุกปี เพราะการวิ่งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว”
มาที่กลุ่มเพื่อนที่ชวนกันมาวิ่ง โดย พิสนีย์ ศรีสวัสดิ์ วัย 27 ปี อาสาเป็นตัวแทนของกลุ่มเล่าให้ว่า ตนเริ่มสนใจเรื่องการวิ่งตั้งแต่ตอนที่พี่ตูน บอดี้สแลม ออกมาวิ่งโครงการก้าวคนละก้าว อีกเหตุผลที่หันมาวิ่งคือ อยากสุขภาพดี จึงชวนเพื่อนมาวิ่งด้วยกันในงาน “ไทยเฮลท์ เดย์ รัน 2018” สำหรับเหตุผลที่เลือกวิ่งงานนี้ เพราะหลายคนแนะนำว่า ถ้าอยากเริ่มต้นวิ่ง ต้องวิ่งที่งานนี้ และทราบมาว่าในปีนี้ได้มีการปรับมาตรฐานการจัดงานให้เป็นไปตามสากลอีกด้วย
“จากการได้เข้าร่วมรู้สึกได้ว่างานมีมาตรฐานที่ดีจริง ทั้งเรื่องของระบบการจัดการ เจ้าหน้าที่ดูแลเป็นอย่างดี เลือกสถานที่ได้ดี การเดินทางมาวิ่งไม่ยาก ตลอดระยะทางมีน้ำดื่มเพียงพอ มีเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดทางทำให้อุ่นใจได้หากเกิดเหตุอะไรขึ้น โดยรวมแล้วประทับใจมาก หากใครกำลังอยากเริ่มต้นวิ่งมาราธอน ไทยเฮลท์ เดย์ รัน เป็นสนามที่ต้องมาลองสัมผัสค่ะ” พิสนีย์ กล่าว
ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลการจัดงานวิ่งสู่ชีวิตใหม่ในปีต่อไปได้ที่ facebook/thaihealthdayrun