‘เรียนให้เป็นเล่นให้รู้’ สร้าง นร.’สุข ดี มี เก่ง’
ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
ภาพประกอบจากสำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี สร้างกระบวนการ “เรียนให้เป็น เล่นให้รู้” พัฒนา ร.ร.ภาคอีสานตอนล่าง ให้ผู้เรียน “สุข ดี มี เก่ง”
มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จัดงานมหกรรมโรงเรียนเฮ็ดดีมีสุขตอนเรียนให้เป็นเล่นให้รู้ ภายใต้โครงการเสริมสร้างและพัฒนาเครือข่ายโรงเรียนสุขภาวะภาคอีสานตอนล่าง จากการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อนำเสนอวิธีการเปลี่ยนแปลงและการจัดการเรียนการสอนที่จะนำให้ผู้เรียนมีสุขภาวะ “สุข ดี มี เก่ง” โดยกระบวนการ “เรียนให้เป็น เล่นให้รู้” จึงเน้นการสร้างการเรียนรู้ที่เหมาะสม ทั้งสาระวิชา สาระความรู้และทักษะวิธีคิด รวมถึงวินัยและความรับผิดชอบ โดยมีโรงเรียนเครือข่ายที่เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 47 โรงเรียน ณ ทุ่งศรีเมือง บริเวณหน้าศาลาจตุรมุข จ.อุบลราชธานี
ดร.ปิ่นวดี ศรีสุพรรณ อาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ในฐานะหัวหน้าโครงการการเสริมสร้างและพัฒนาเครือข่ายโรงเรียนสุขภาวะภาคอีสานตอนล่าง หรือโครงการ “โครงการโรงเรียนเฮ็ดดีมีสุข” มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดโรงเรียนสุขภาวะที่มีการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ใน 5 องค์ประกอบของโรงเรียนสุขภาวะ 2) เพื่อสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครูและผู้บริหารโรงเรียน โดยมุ่งหวังพัฒนาครูที่มีความกระตือรือร้นเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลง 3) เพื่อพัฒนาการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้เชิงรุกเป็นเครื่องมือในการพัฒนาเด็กและเยาวชนในโรงเรียนให้กลายเป็นผู้เรียนที่เป็นสุขและสร้างการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองและชุมชนในการบริหารจัดการโรงเรียนสุขภาวะ และ4)เพื่อพัฒนาหลักสูตรตลอดจนคู่มือส่งเสริมการบริหารงานและจัดการเรียนรู้ในโรงเรียนสุขภาวะ
ดร.ปิ่นวดี ศรีสุพรรณ อาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กล่าวว่า โรงเรียนเฮ็ดดีมีสุข มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาครูและกระบวนการเรียนการสอนสู่การเรียนการสอนที่มีความสุข สร้างให้ผู้เรียน ผู้สอน องค์กร รวมถึงชุมชนรอบข้างเป็นสุข ผ่านกระบวนการ Active Learning และการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) และการทำโครงงานเป็นฐาน (PBL) ที่เอื้อให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเด็กและเยาวชน ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาการดำเนินงาน 1 ปี 6 เดือน เกิดกระบวนการเรียนรู้ภายใต้แนวคิด “เรียนให้เป็น เล่นให้รู้” เพื่อมุ่งหวังให้เกิดการแลกเปลี่ยนกระบวนการเรียนการสอนที่นำไปสู่ความสุข โดยแบ่งประเด็น โครงงานออกเป็น 4 ประเด็นได้แก่ การจัดการขยะ การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง การเสริมทักษะอาชีพ และห้องเรียนสุขภาวะ ซึ่งในการสร้างกิจกรรมการเรียนรู้ในโรงเรียนที่ส่งเสริมสุขภาวะ แต่ละโครงการได้กำหนดรูปแบบวิธีการและกำหนดการดำเนินงานที่แตกต่างหลากหลายและมีความน่าสนใจ รวมทั้งสามารถบูรณาการเข้ากับการเรียนการสอนในหลากหลายวิชาได้
ด้าน นายทรงพล อินทเศียร รองอธิการบดีมหาวิทายาลัยอุบลราชธานี กล่าวว่า ต้องชื่นชมความตั้งใจของครูและผู้บริหารสถานศึกษาที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงในการจัดการเรียนการสอนและระบบการศึกษาที่จะนำให้ผู้เรียนเป็นผู้ที่มีสุขภาวะ “สุข ดี มี เก่ง” โดยร่วมเรียนรู้ไปพร้อมกับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ซึ่งมีกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้และการสร้างสุขภาวะแก่เด็กและเยาวชนผ่านการเรียนรู้ในรูปแบบต่างๆ โดยสร้างความร่วมมือกับองค์กรภาคี ทักษะการคิดสังเคราะห์ สร้างความรู้โดยผู้เรียนเอง ครูปรับบทบาทเป็นผู้อำนวยการให้นักเรียนนำประสบการณ์ปฏิบัติมาทำความเข้าใจ ด้วยสาระวิชาที่เรียนอยู่ เพื่อนำไปสู่การตีความ การบูรณาการความรู้เดิมจนเข้าใจและสังเคราะห์เป็นความรู้ใหม่ที่เกิดขึ้นแก่ตนเองโดยนักเรียนเอง ตลอดจนสร้างเครือข่ายโรงเรียนสุขภาวะให้เกิดเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพ (PLC) “เรียนให้เป็น เล่นให้รู้” คือการเน้นเรียนโดยสร้างการเรียนรู้ที่เหมาะสม ไม่ใช่การเรียนที่คร่ำเคร่งหรือเพื่อแข่งขันเพียงอย่างเดียว แต่ขาดความสุข การเรียนให้เป็นจึงเป็นการส่งเสริมทั้งในเรื่องสาระรายวิชา และสาระความรู้ และทักษะวิธีคิดและวินัยความรับผิดชอบไปในตัวด้วย ในขณะเดียวกัน การเล่นก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ช่วยเติมเต็มให้เราไม่เคร่งเครียดกับการเรียนในชั้นเรียนมากจนเกินไป แต่การเล่นในที่นี้ เป็นการเล่นที่ผสมผสานความรู้เข้าไปด้วย ฉะนั้น ผู้ให้ความรู้จึงต้องเป็นโค้ช (Coach) ที่เอาใจใส่ และใส่ใจในกิจกรรมต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงให้เห็นองค์ความรู้ที่ได้ด้วย นั่นคือ การฝึกให้คิด ไม่เช่นนั้น การเล่นก็ไม่ต่างกับการเล่นทั่วไป”
ทั้งนี้ เป็นที่ประจักษ์ชัดว่าการพัฒนาการศึกษาที่ส่งเสริมการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพจะต้องเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง การเรียนการสอนโดยใช้โครงการเป็นฐาน จึงเป็นแนวทางหนึ่งที่ส่งเสริมให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียน ซึ่งผลที่ตามมาได้ช่วยให้เกิดการลดพฤติกรรมเสี่ยง และเพิ่มพฤติกรรมสุขภาพ ทั้งด้านกาย จิต สังคมและสติปัญญา โดยนำไปสู่ความสุขในการเรียนรู้ตามเป้าหมายของโครงการ ทั้งนี้ การสนับสนุนให้เกิดการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองและชุมชนในการบริหารจัดการโรงเรียนสุขภาวะ สร้างและหนุนเสริมให้เกิดความร่วมมือและความรับผิดชอบร่วมกัน การช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกัน ประหยัด คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อเด็กและเยาวชน