เริ่มระบาด ‘กระดาษเมา’
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
แฟ้มภาพ
กลายเป็นอีกเรื่องที่ต้องระวังสำหรับ "กระดาษเมา" หรือ "สติกเกอร์เมา" ยาเสพติดชนิดใหม่ที่เพียงนำกระดาษ หรือแผ่นสติกเกอร์ มาวางใต้ลิ้นภายในปาก จากนั้นก็จะ ออกฤทธิ์ ทำให้ผู้เสพมีอาการเคลิบเคลิ้ม หัวเราะ สนุกสนาน โดยจำหน่ายในสนน ราคาแผ่นละ 500 บาท จนถึง 1,000 บาท ซึ่งกำลังกลายเป็นข่าวการล่อซื้อ-จับกุมให้เห็นอยู่ในขณะนี้
สถาบันบำบัดรักษา และฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กรมการแพทย์ เตือนนักท่องเที่ยวใช้ "แสตมป์มรณะ" อมใต้ลิ้น อาจเกิดอาการหลอนประสาทอย่างรุนแรง และนำไปสู่การฆ่าตัวได้
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า จากข่าวการจับกุมผู้ค้า "แสตมป์มรณะ" ที่ระบาดในกลุ่มนักท่องเที่ยว"กระดาษเมา กระดาษมหัศจรรย์ หรือ แสตมป์มรณะ"เป็น การนำสาร แอลเอสดี (LSD) ซึ่งเป็น ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ออกฤทธิ์หลอนประสาท เมื่อหยดลงบนกระดาษที่มีคุณสมบัติดูดซับ (blotter paper) อาจมีลวดลาย และสีสันต่างๆ แล้วแบ่งเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ มีลักษณะคล้ายแสตมป์ ใช้อมใต้ลิ้น โดยจะออกฤทธิ์ภายใน 30-90 นาที นาน 8-12 ชั่วโมง
โดยคุณสมบัติดังกล่าวจะทำให้รูม่านตาขยาย อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น ความดันโลหิตลดลงและอัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น เหงื่อออก เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ ปากแห้ง และมือสั่น
"เมื่อเสพสารแอลเอสดีเข้าสู่ร่างกาย ในระยะแรกจะมีความสุข อารมณ์ดี รู้สึกคึกคัก หลังจากนั้นจะเกิดอาการประสาทหลอนอย่างรุนแรง เห็นภาพหรือเหตุการณ์ในอดีต เกิดอาการหวาดกลัวจนกระทั่งอาจทำร้ายตนเอง หรือทำร้ายผู้อื่นและอาจนำไปสู่ การฆ่าตัวตายได้"
นพ.สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า ผู้ที่เสพสาร แอลเอสดีเกินขนาดมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดปัญหาทางจิตเรื้อรัง เช่น โรคจิตเภท หรือโรคซึมเศร้า เกิดอาการหวาดระแวง หูแว่ว เห็นภาพหลอน แม้จะหยุดใช้ยาแล้วแต่อาการโรคจิตอาจเป็นซ้ำได้อีก การรักษาอาการดังกล่าวทำ ได้ยาก และอาจต้องใช้เวลานานเพื่อให้อาการทุเลาลง
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด แห่งชาติบรมราชชนนีคนเดิมยังย้ำเตือนกลุ่มนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่นิยมเสพสารแอลเอสดี ให้คำนึงถึงผลกระทบที่จะ ตามมา การเสพสารแอลเอสดี ทำให้ผู้เสพมี ปัญหาด้านการรับรู้การคิดและการตัดสินใจ อาจนำมาซึ่งเหตุรุนแรงที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น เช่น การเกิดอุบัติเหตุ บนท้องถนน การทำร้ายตนเองและผู้อื่น ซึ่งเป็นผลจากเกิดภาพหลอนหลังจาก การเสพสารแอลเอสดีได้
อย่างไรก็ตาม นี่ถือเป็นยาเสพติดให้โทษอีกชนิดที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ในการป้องกันปัญหาที่จะเกิดตามมา ในอนาคต
หมายเหตุ : หากประสบปัญหา เกี่ยวกับยาและสารเสพติดสามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่สายด่วนยาเสพติด 1165 หรือที่สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนีกรมการแพทย์ จังหวัดปทุมธานี และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ในส่วนภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ขอนแก่น อุดรธานี สงขลา และปัตตานี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pmindat.go.th
แอลเอสดีมาจากไหน แอลเอสดีในธรรมชาตินั้นมีใน พืชมากกว่า 40 ชนิด เช่น หนังคางคก เมื่อแยกสารนี้ออกมาแล้วพบสาร ที่มีโมเลกุลคล้ายกับสารแอลเอสดี แต่ฤทธิ์ที่ทำให้เกิดอาการเคลิบเคลิ้มและสบายใจนั้นมีน้อยกว่าเช่น ในเห็ดเม็กซิกันซึ่งเรียกกันว่า Psilocybe mexicana ชาว พื้นเมืองต่างถือกันว่าเป็นเห็ดเทพเจ้าที่มีความศักดิ์สิทธิ์มากใช้กินกันเมื่อมีพิธีกรรมทางศาสนา โดยเชื่อกันว่าเมื่อกินเข้าไปแล้วจะทำให้เทพเจ้าเข้าสิง เพราะเกิดความมึนเมา และมีอารมณ์ประหลาดเกิดขึ้นเนื่องจากในเห็ดนี้มีสารซิโลไซบิน (psilocybin) ที่ออกฤทธิ์คล้ายคลึงกันกับ แอลเอสดีแต่น้อยกว่า