เพิ่มช่องทางให้บริการคำปรึกษาแก่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่แยกกักตัวและผู้ที่สูญเสียคนที่รัก

ที่มา : แนวหน้า


เพิ่มช่องทางให้บริการคำปรึกษาแก่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่แยกกักตัวและผู้ที่สูญเสียคนที่รัก thaihealth


แฟ้มภาพ


กรมสุขภาพจิต เพิ่มช่องทางการให้บริการ ปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตสำหรับประชาชนในกลุ่มผู้ติดเชื้อโควิด-19 ผู้แยกกักตัวที่บ้าน (Home isolation)/กักตัวในชุมชน (Community Isolation) และผู้ที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักจากวิกฤติการแพร่ระบาด ผ่าน LINE @1323FORTHAI และช่องทางสำหรับบุคลากรสาธารณสุขในการดูแลผู้ป่วย ผ่าน LINE @mcattcovid เพื่อเพิ่มศักยภาพการดูแลด้านสุขภาพจิตภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่มีมากขึ้นในอนาคต


แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า กรมสุขภาพจิต ตระหนักถึงปัญหาของประเทศไทยในขณะนี้ที่มีการ แพร่ระบาดมากขึ้นของเชื้อโควิด-19 และทรัพยากร ที่จำกัดด้านสาธารณสุขซึ่งทำให้มีการปรับ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่มีอาการหรืออาการน้อยให้ทำการรักษาด้วยวิธี Home Isolation (การแยกกักตัวที่บ้าน) หรือ Community Isolation (การแยกกักตัวในชุมชน) ซึ่งประชาชนส่วนหนึ่งอาจมีความกังวลมากขึ้นเพราะเป็นรูปแบบที่แตกต่างออกไปจากการรักษาทางกายกับสถานพยาบาลทั่วไป


นอกจากนี้ในสถานการณ์ที่มี ผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอาจมีแนวโน้มทำให้จำนวน ผู้เสียชีวิตมากขึ้นตามมา ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่ง ต้องสูญเสียบุคคลที่ตนเองรักหรือสมาชิก ในครอบครัวไป ความสูญเสียที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจได้อย่างมาก และอาจเกิดผลกระทบทางด้านสุขภาพจิตได้ในระยะยาว กรมสุขภาพจิตได้ติดตามและให้ความสำคัญกับกลุ่มต่างๆ ข้างต้น เป็นอย่างมาก จึงดำเนินการเพิ่มเติมช่องทาง การให้บริการปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตสำหรับประชาชนในกลุ่มผู้ติดเชื้อโควิด-19 ผู้แยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation)/กักตัวในชุมชน (Community Isolation) และผู้ที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักจากวิกฤติการแพร่ระบาด ผ่าน LINE @1323FORTHAI ควบคู่ไปกับระบบสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ที่มีอยู่เดิม


และกรมสุขภาพจิต ยังขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนที่ติดเชื้อโควิด-19 หรือกำลังแยกกักตัว หรือสูญเสียบุคคล ในครอบครัวที่ท่านรัก ให้ประเมินสุขภาพจิตของตนเองอย่างสม่ำเสมอด้วยแพลตฟอร์ม Mental Health Check In เพื่อให้ทราบว่าตนเองกำลังมีความเสี่ยงต่อปัญหาความเครียด ซึมเศร้า หรือฆ่าตัวตาย ในระดับใด เพื่อเข้าสู่ระบบการดูแลรักษาด้านสุขภาพจิตได้อย่างรวดเร็วต่อไป


แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้กรมสุขภาพจิตยังเปิดช่องทางสนับสนุนด้านสุขภาพจิตฉุกเฉินสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยประเภท Home/Community Isolation โดยเมื่อบุคลากรทาง การแพทย์ประเมินพบว่าผู้ป่วยที่กำลังดูแล อยู่นั้น มีปัญหาโรคทางจิตเวช ยาเสพติด เครียด นอนไม่หลับ ซึมเศร้า มีแนวโน้มทำร้ายตัวเอง มีอาการหูแว่ว ภาพหลอน หวาดระแวง ในระหว่าง ที่แยกกักตัวรักษาอยู่ที่บ้าน บุคลากรสามารถส่งต่อข้อมูลและขอการสนับสนุนด้านสุขภาพจิตผ่านทางช่องทางแอปพลิเคชั่น LINE @mcattcovid โดยเจ้าหน้าที่กรมสุขภาพจิตจะติดต่อกลับไปหาผู้ป่วยเพื่อประเมินอาการและให้คำปรึกษาเบื้องต้น และวางแผนการรักษาด้านสุขภาพจิตควบคู่ไปกับสุขภาพกายด้วย


นอกจากนี้หากผู้ป่วยมีความจำเป็นต้องเข้ารับ การรักษาในโรงพยาบาลจิตเวช ก็จะสามารถ ส่งต่อข้อมูลได้อย่างเป็นระบบอีกด้วย กรมสุขภาพจิต ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้พี่น้องประชาชนไทยและบุคลากรทางสาธารณสุขที่กำลังทำงานอย่างเต็มศักยภาพทุกท่าน ให้ช่วยกันฝ่าฟันวิกฤติครั้งนี้ไปได้ด้วยสุขภาพจิตและพลังใจที่ดี

Shares:
QR Code :
QR Code