เฝ้าระวังโคโรน่าไวรัส 5 จังหวัดท่องเที่ยว

สธ. เฝ้าระวังโคโรน่าไวรัส 5 จังหวัดท่องเที่ยว หลังwho เตือนติดคนสู่คนแล้ว 9 ประเทศ!

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงมาตรการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2012 (middle east respiratory syndrome coronavirus : mers cov) ว่า องค์การอนามัยโลกรายงานล่าสุดในวันที่ 17 มิถุนายน พบผู้ป่วยยืนยัน 64 ราย เสียชีวิต 38 ราย ใน 9 ประเทศโดยเฉพาะกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง ได้แก่ จอร์แดน ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี ตูนิเซีย และอิตาลี คาดว่าจำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มมากขึ้น และให้ทุกประเทศจับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีหลักฐานว่าสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ แม้จะไม่รวดเร็วเหมือนโรคซาร์ส แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบแหล่งโรคที่ชัดเจน มาตรการสำคัญที่สุดในขณะนี้คือการป้องกันและการเฝ้าระวัง เพื่อจับสัญญาณค้นหาโรคได้รวดเร็วที่สุด รวมทั้งการเตรียมความพร้อมในสถานพยาบาล

“แม้ขณะนี้ ยังไม่มีรายงานพบผู้ป่วยโรคนี้ในประเทศไทยก็ตาม สธ.ได้เตรียมความพร้อมรับมือโรคนี้ไว้แล้ว โดยให้ทุกจังหวัดเฝ้าระวังในกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อระบบทางเดินหายใจที่มีอาการรุนแรง โดยเฉพาะโรคปอดบวมปอดอักเสบ และให้เน้นหนักในจังหวัดใหญ่ที่มีชาวต่างชาตินิยมเข้ามาท่องเที่ยว ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ชลบุรี ภูเก็ต และขอนแก่น และเตรียมความพร้อมระบบการตรวจยืนยันเชื้อทางห้องปฏิบัติการ ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และศูนย์วิทยาศาสตร์ 14 ศูนย์ทั่วประเทศให้สามารถตรวจหาเชื้อได้อย่างแม่นยำรวดเร็ว” นพ.ประดิษฐกล่าว และว่า ได้มอบให้กรมการแพทย์ จัดทำแนวทางการวินิจฉัย ดูแลรักษา และการป้องกันการติดเชื้อและการควบคุมการแพร่กระจายเชื้อในสถานบริการ เป็นแนวปฏิบัติแก่แพทย์และทีมบุคลากรในโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนแล้ว

นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. กล่าวว่า สธ.ได้จัดระบบเฝ้าระวังในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.ผู้ที่ไปแสวงบุญที่ประเทศซาอุดีอาระเบียในช่วงการประกอบพิธีฮัจญ์ในเดือนกันยายน-ตุลาคมปีนี้ จำนวน 13,000 คน ซึ่งได้มอบให้สำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค เป็นแกนในการประสานตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลและไข้กาฬหลังแอ่นให้ทุกคน พร้อมจัดทำทะเบียนรายชื่อ พร้อมที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ เพื่อให้มิสเตอร์ฮัจญ์ใน 53 จังหวัดติดตามอาการหลังกลับจากการแสวงบุญเป็นเวลา 1 เดือน 2.กลุ่มผู้เดินทางกลับจากทำงานในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และ 3.นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เดินทางผ่านกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง โดยได้จัดทำบัตรแนะนำสุขภาพ (health advisory) เป็นภาษาไทย อังกฤษ และอารบิก แจกแก่ผู้ที่เดินทางขาเข้าประเทศไทย ให้ความรู้ในการสังเกตอาการ หากป่วยให้พบแพทย์พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน

 

Shares:
QR Code :
QR Code