เผยสุนัขกัดคนปีละไม่ต่ำกว่าล้าน ครึ่งหนึ่งเมินฉีดวัคซีน
สธ.เผยทั่วโลกพบผู้เสียชีวิตโรคพิษสุนัขบ้า ปีละกว่า 55,000 คน เฉลี่ย ชม.ละ 6 คน ส่วนใหญ่ในจีนและอินเดีย ขณะที่ไทยในช่วง 8 เดือนปีนี้ มีผู้เสียชีวิต 7 คน พบสุนัข 7 ล้านตัวยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ตั้งเป้าพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า 100% ภายในปี 63
เมื่อวันที่ 11 ก.ย. นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว ระหว่างการเปิดประชุมโรคพิษสุนัขบ้าระดับนานาชาติ (riacon) ครั้งที่ 4 ว่า โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคร้ายแรง หากติดเชื้อจนมีอาการป่วย ไม่สามารถรักษาให้หายได้ ต้องเสียชีวิตทุกราย แต่ละปีทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้กว่า 55,000 คนจาก 150 ประเทศ เฉลี่ยชั่วโมงละ 6 คน ร้อยละ 95 อยู่แถบเอเชียและอาฟริกา โดยเฉพาะจีนและอินเดีย มีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ประมาณ 1 ใน 3 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด ผู้ถูกกัดส่วนมากเป็นเด็กชาย อายุต่ำกว่า 15 ปี สัตว์ที่แพร่เชื้อโรคนี้มากที่สุดคือสุนัข โดยปัจจุบันทั่วโลกมีประชากรประมาณ 7,000 ล้านคน และมีสุนัขอยู่ประมาณ 500 ล้านตัว
สำหรับสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าของไทย แม้ว่าผู้เสียชีวิตในปัจจุบันจะลดลงมากจากอดีตกว่า 50 เท่าตัว โดยเมื่อปี 2523 มีผู้เสียชีวิต 370 คน ลดเหลือ 7 คนในปี 2555 และรอบ 8 เดือนปี 2556 นี้กลับมีผู้เสียชีวิต 7 คน ซึ่งถือว่าเชื้อโรคยังคงมีอยู่ในพื้นที่ แม้ว่าจะควบคุมโรคประสบความสำเร็จได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจากบางพื้นที่ยังไม่มีการควบคุมโรคในสุนัข หรือยังฉีดวัคซีนป้องกันโรคในสุนัข ครอบคลุมไม่ถึงร้อยละ 80 ของสุนัขในพื้นที่ ซึ่งคาดว่ามีประมาณ 7 ล้านตัว โดยแต่ละปีคนไทยถูกสุนัขกัดไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน ในจำนวนนี้ประมาณครึ่งหนึ่ง มารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค คิดเป็นค่าใช้จ่ายปีละ 1,000 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข จะได้เร่งสร้างพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า 100% ภายในปี 2563
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในการกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากไทย กรมควบคุมโรคได้ร่วมกับกรมปศุสัตว์ จัดทำ 5 ยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย 1. การบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานสาธารณสุข ปศุสัตว์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2. เสริมสร้างให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นป้องกันโรค เน้นควบคุมโรคในสัตว์เพื่อสร้างความปลอดภัยให้คน 3. เฝ้าระวังโรคในพื้นที่ หากมีคนถูกสุนัขบ้ากัดหรือมีสุนัขบ้าในพื้นที่ ให้ฉีดวัคซีนป้องกันในสุนัขทุกตัวในรัศมี 3-5 กิโลเมตร 4. ให้ชุมชนมีส่วนร่วมป้องกัน และ 5. ปรับพฤติกรรมผู้เลี้ยงสุนัขให้เลี้ยงอย่างถูกวิธี ฉีดวัคซีนให้สุนัขทุกปี และมีการคุมกำเนิดสุนัข ขอย้ำเตือนประชาชน หากถูกสุนัขกัด ถูกเล็บข่วน หรือถูกเลียบริเวณที่มีบาดแผล ไม่ว่าเป็นสุนัขโตหรือลูกสุนัข ขอให้รีบล้างแผลด้วยน้ำสะอาด ใส่ยา และไปพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อให้เกิดความปลอดภัยที่สุด
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ