เผยวิจัยฟ้าทะลายโจร เพิ่มภูมิคุ้มกันสู้โควิด-19
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
แฟ้มภาพ
รพ.อภัยภูเบศร เผยผลวิจัยล่าสุด ฟ้าทะลายโจรช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันสู้ไวรัส โควิด-19 ยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส มีฤทธิ์ปรับภูมิคุ้มกันโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ มีฤทธิ์ทำลายเชื้อแบคทีเรียดื้อยาฉวยโอกาสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินหายใจ
ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้ร่วมจัดนิทรรศการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อโปรโมทงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-6 กันยายน ณ อิมแพคเมืองทองธานี โดยโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้นำสมุนไพร "ฟ้าทะลายโจร" มานำเสนอ ภายหลังจากที่มีงานวิจัยจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกชี้ชัดว่า อาจมีศักยภาพในการรักษาโรคโควิด-19
พญ.โศรยา ธรรมรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า จากงานวิจัยสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกที่พบว่า การใช้ฟ้าทะลายโจรอาจมีศักยภาพในการรักษาโควิด-19 นั้น ไม่มีการศึกษาเรื่องฤทธิ์เสริมภูมิคุ้มกัน ทาง โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรจึงได้มีการรวบรวมองค์ความรู้ตำรับยาพื้นบ้าน และพบว่าในตำรับพื้นบ้านมีการใช้ ฟ้าทะลายโจร กับพริกไทยดำ กินเพื่อป้องกันหวัดมานาน โดยมีการปรับสัดส่วนของพริกไทยตามความร้อนเย็นของร่างกาย อาจจะกินฟ้าทะลายโจรอย่างเดียวหากร่างกายร้อนมาก
จึงนำมาสู่การวิจัยเพื่อประเมินศักยภาพของตำรับดังกล่าว โดยได้รับความร่วมมือจาก ผศ.ดร. ภก.เฉลิมพงษ์ แสนจุ้ม และทีมวิจัย คลัสเตอร์ความเป็นเลิศด้านเศรษฐกิจและสังคมบนฐานความหลากหลายทางชีวภาพ (B.BES-CMU) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยใช้ชิ้นส่วนของเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งเป็นคนละชนิดกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เนื่องจากในอนาคตหากมีผลการศึกษาที่ดี ก็สามารถจะใช้ในการเสริมภูมิต้านทานเพื่อต่อสู้กับไวรัสตระกูลมงกุฎชนิดอื่นๆ
"โดยเบื้องต้นได้ทดสอบฤทธิ์ของสารสกัดฟ้าทะลายโจรและพริกไทยดำแยกกันก่อน และหากได้ผลดี จะนำมาผสม ในสัดส่วนต่างๆ ตามองค์ความรู้ดั้งเดิม ได้พบผลการศึกษาที่น่าสนใจ สรุปได้คือ 1.สารสกัด ฟ้าทะลายโจรและสารสกัดพริกไทยดำมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโคโรนาไวรัส 2.ฟ้าทะลายโจรและสารสกัดพริกไทยมีศักยภาพในการยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส 3.มีฤทธิ์ปรับภูมิคุ้มกันโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ โดยสามารถยับยั้งการสร้าง IL-6 ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบจากเชื้อ SAR-CoV-2 ซึ่งเป็นสาเหตุของโควิด-19 และ 4. มีฤทธิ์ทำลาย เชื้อแบคทีเรียดื้อยาฉวยโอกาสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินหายใจ" ผอ.โรงพยาบาล เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าว