เผยป่วย“NCDs”คุกคามประชากรโลก

ที่มา : เว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข


ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ


เผยป่วย“NCDs”คุกคามประชากรโลก thaihealth


แฟ้มภาพ


“กระทรวงสาธารณสุข” เผยสถานการณ์และความรุนแรงของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เป็นสาเหตุการเสียชีวิตถึงร้อยละ 73 ของการเสียชีวิตของประชากร การพัฒนาสมรรถนะและเพิ่มพูนทักษะแก่บุคลากรสาธารณสุข ช่วยลดภาวะแทรกซ้อนและชะลอการเกิดผู้ป่วยรายใหม่


นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาสมรรถนะและเพิ่มพูนทักษะการดำเนินงานโรคไตเรื้อรัง โรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมองว่า องค์การอนามัยโลกมีรายงานว่า ทุกปีทั่วโลกจะพบการเสียชีวิตของโรคไม่ติดต่อเรื้อรังประมาณ 36 ล้านคน สำหรับประเทศไทย พบว่าโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นสาเหตุการเสียชีวิตถึงร้อยละ 73 ของประชากรทั้งหมด โดยเฉพาะโรคหลอดเลือดหัวใจ พบว่าอัตราตายเท่ากับ28.92 ต่อประชากรแสนคน หรือ เท่ากับ 18,922 คน เฉลี่ยชั่วโมงละ 2 คน ส่วนหลอดเลือดสมองมีอัตราตายสูงสุด และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะปี 57 มีจำนวนตาย 25,114 คน หรือเฉลี่ยทุกๆ 1 ชั่วโมง จะมีคนตายด้วยโรคหลอดเลือดสมองประมาณ 3 คน


นอกจากนั้นยังพบว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังประมาณ 8 ล้านคน เป็นผู้ป่วยไตวายระยะสุดท้ายประมาณ 200,000 คน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ปีละกว่า 7,800 ราย ซึ่งจะตรวจพบเมื่อโรคเข้าสู่ภาวะไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย โดยรัฐต้องใช้งบประมาณในการล้างไตสูงกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี และค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลโรคหลอดเลือดหัวใจ มูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท ดังนั้น จากสถานการณ์และความรุนแรงของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง จึงก่อให้เกิดความสูญเสียด้านทรัพยากรบุคคลซึ่งเป็นวัยทำงานและยังเกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างมากมาย


นายแพทย์โสภณ กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำโครงการการดำเนินงาน ในปีงบประมาณ 2559 ในการจัดการโรคไตเรื้อรังและลดโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยกำหนดเป็นมาตรการเป็นแนวทางในการดำเนินงาน เช่น การเฝ้าระวัง ติดตาม คัดกรองโรคและลดพฤติกรรมเสี่ยง สร้างความตระหนักในกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เสริมสร้างสิ่งแวดล้อม ลดเสี่ยงในชุมชน ให้คำปรึกษาและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม พัฒนาคุณภาพบริการ เสริมสร้างศักยภาพบุคลากร กำกับ ติดตาม ประเมินผล มีระบบสารสนเทศสำหรับการดำเนินงาน แต่จากการประเมินการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่าบุคลากรในการดำเนินงานยังขาดความรู้เพื่อสนับสนุนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ป่วย

Shares:
QR Code :
QR Code