เผยคนไทยสวมหมวกกันน็อคไม่ถึง 50%
ไทยโรดส์-สสส. เผยผลสำรวจคนไทยสวมหมวกนิรภัยไม่ถึง 50% เปิดพฤติกรรมสุดอันตราย “4 ไม่” ไม่เห็นด่าน-ไม่เสี่ยง-ไม่ทราบ-ไม่กวดขัน แนะ บังคับใช้กฎหมายจริงจัง เร่งสร้าง “วัฒนธรรมความปลอดภัย” และส่งเสริม “มาตรการองค์กร” สวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่ขับขี่
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 สิงหาคม ที่โรมแรม แกรนด์ เซ็นเตอร์พอยต์ เทอร์มินอล 21 มูลนิธิไทยโรดส์ เครือข่ายเฝ้าระวังสถานการณ์ความปลอดภัยทางถนน (Road Safety Watch) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แถลงผลสำรวจอัตราการสวมหมวกนิรภัยของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ประจำปี 2556 พร้อมพิธีมอบรางวัลจังหวัดที่มีผลงานดีเด่นด้านการส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ปี พ.ศ. 2556 จำนวน 12 จังหวัด ได้แก่ จ.พิษณุโลก นครสวรรค์ ตากนครราชสีมา สุรินทร์ ขอนแก่น นนทบุรี สมุทรปราการ ตราด ภูเก็ต นครศรีธรรมราช และระนอง
โดยศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษาสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ประธานการแถลงข่าว กล่าวว่า การสำรวจอัตราการสวมหมวกนิรภัยของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในประเทศไทย ประจำปี 2556 เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ปัจจุบันของพฤติกรรมการสวมหมวกนิรภัยของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ทั่วประเทศ สามารถนำไปใช้อ้างอิงเป็นฐานข้อมูลติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของมาตรการต่างๆ ที่มุ่งเน้นให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์สวมใส่หมวกนิรภัยมากขึ้น ทั้งในแง่ของการบังคับใช้กฎหมาย การรณรงค์ และการประชาสัมพันธ์ โดยภาพรวมประเทศไทยยังมีอัตราการสวมหมวกนิรภัยไม่ถึง ร้อยละ 50 จึงส่งผลต่อเนื่องให้เกิดการสูญเสียมาจากอุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทย แม้ในปี 2554 รัฐบาลได้กำหนดให้เป็น “ปีแห่งการรณรงค์สวมหมวกนิรภัย 100%” แต่อัตราการสวมหมวกนิรภัยของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ยังขยับสูงขึ้นไม่มากนัก
ด้าน ดร.ปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล กรรมการและเลขานุการมูลนิธิไทยโรดส์ กล่าวว่า มูลนิธิไทยโรดส์และเครือข่ายเฝ้าระวังสถานการณ์ความปลอดภัยทางถนน ได้สำรวจพฤติกรรมการสวมหมวกนิรภัยของผู้ใช้รถจักรยานยนต์บนท้องถนน เป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกปี ตั้งแต่ ปี 2553 ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 4 ได้ทำการสำรวจผู้ใช้รถจักรยานยนต์ จำนวน 1,484,669 คน ทั้งในเขตเทศบาลนคร เทศบาลเมือง และเทศบาลตำบล ครอบคลุมพื้นที่ 77 จังหวัดทั่วประเทศ พบว่า ภาพรวมผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในประเทศไทยสวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 43 ซึ่งเท่ากับปี 2555 แบ่งเป็นผู้ขับขี่และผู้โดยสารสวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 51 และ 19 ตามลำดับ
“จังหวัดที่ผู้ใช้รถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัยมากที่สุดของแต่ละภูมิภาค ในปี 2556 ได้แก่ ภาคเหนือ จ.พิษณุโลก ร้อยละ 49 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.นครราชสีมา ร้อยละ 49 ภาคกลางและตะวันออก (ไม่รวม กทม.) จ.นนทบุรี ร้อยละ 65 และภาคใต้ จ.ภูเก็ต ร้อยละ 68 นอกจากนี้จังหวัดที่มีอัตราการสวมหมวกนิรภัยของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ เพิ่มขึ้นดีเด่น ในแต่ละภูมิภาค ประจำปี 2556 ได้แก่ จ.เชียงใหม่ จ.บุรีรัมย์ จ.ชัยนาท และ จ.ประจวบคีรีขันธ์” ดร.ปิยพงษ์ กล่าว
ดร.ปิยพงษ์ กล่าวต่อว่า เมื่อเปรียบเทียบบริบทพื้นที่การสำรวจ พบว่า อัตราสวมหมวกนิรภัยของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ในเขตเมืองใหญ่ คิดเป็นร้อยละ 72 เขตเมืองรอง ร้อยละ 46 และเขตชุมชนชนบท มีเพียงร้อยละ 29 เท่านั้น เมื่อจำแนกตามกลุ่มอายุรวมผู้ขับขี่และผู้โดยสาร พบว่า กลุ่มผู้ใหญ่สวมหมวกนิรภัย คิดเป็นร้อยละ 49 กลุ่มวัยรุ่นร้อยละ 23 และกลุ่มเด็กเฉพาะผู้โดยสาร มีการสวมหมวกนิรภัยเพียงร้อยละ 7 เท่านั้น โดยผลการสำรวจอัตราการสวมหมวกนิรภัยในกลุ่มเด็ก มีการคาดการณ์จำนวนเด็กที่ยังไม่มีหมวกนิรภัยสวมใส่สูงถึง 1.253 ล้านคน
ดร.ปิยพงษ์ กล่าวอีกว่า จากการศึกษาวิจัยพฤติกรรมการสวมหมวกนิรภัยของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ พบสาเหตุและแนวโน้มของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ที่จะไม่สวมหมวกนิรภัย คือ 1. รู้สึกไม่มีความเสี่ยงที่จะถูกตรวจจับ 2.ไม่ค่อยพบเห็นจุดตรวจ/ด่านตรวจ และหลบเลี่ยงเพราะรู้สถานที่และเวลาของจุดตรวจ/ด่านตรวจ 3.ไม่รู้ว่าหากผู้โดยสารไม่สวมหมวกนิรภัย “ผิดกฎหมาย” และ 4.รู้สึกว่าตำรวจไม่กวดขันจับกุมอย่างเข้มงวด จากผลการศึกษาดังกล่าว ขอเสนอทิศทางการขับเคลื่อนส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัย 100% คือ 1.เน้นรณรงค์บริเวณนอกเขตเมืองของทุกจังหวัด 2.ทดลองใช้นวัตกรรมรูปแบบการบังคับใช้กฎหมายที่มีประสิทธิภาพ และมีการประเมินผลสัมฤทธิ์ในพื้นที่นำร่อง เช่น การสุ่มเวลาและสถานที่ตรวจจับ 3.การส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยให้เป็นเรื่อง “วัฒนธรรมความปลอดภัย” และเร่งสร้างให้เกิด “มาตรการองค์กร” ในการสวมหมวกนิรภัย 100% และ 4.สร้างการรับรู้ของประชาชนในเรื่องกฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องผู้โดยสารไม่สวมหมวกนิรภัย ถือว่า “ผิดกฎหมาย” ผ่านการตรวจจับจริงให้ผู้สัญจรได้พบเห็นและรับรู้
ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข