เปิดใจแม่วัยใส รักที่ก้าวพลาด เพราะน้ำเมา
ใกล้เทศกาลวาเลนไทน์ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ร่วมกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดเสวนาหัวข้อ “เมื่อวัยเรียนก้าวพลาดในความรัก เราจะตั้งหลักกันอย่างไร” โดยมีกรณีศึกษาจากเยาวชนที่เคยก้าวพลาดร่วมสะท้อนเพื่อเตือนใจวัยรุ่นให้มีสติในความรัก ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์
นางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 24 ปี เล่าว่าช่วงวัยเรียนตนเป็นเด็กที่เรียนดี เกรดเฉลี่ย 3.9 เกือบทุกเทอม แต่เพราะรักในวัยเรียนจึงทำให้ใช้ชีวิตไปในทางที่ผิด และวันนั้นเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตคือการไปฉลองเรียนจบม.6 กับเพื่อนและแฟน ด้วยความที่ไม่เคยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่เมื่อลองดื่มทำให้เมาขาดสติจนพลาดตั้งครรภ์
“พอรู้ว่าตั้งครรภ์ก็ตกใจทำอะไรไม่ถูก ไม่คิดว่าการกระทำแค่ครั้งเดียวจะเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตมากขนาดนี้ เพื่อนแนะนำให้ไปเอาเด็กออก แต่ดิฉันตัดสินใจเล่าความจริงให้พ่อกับแม่ฟัง ที่บ้านก็เสียใจมาก เพราะเราเป็นลูกคนเดียว จากนั้นไม่นานผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายก็ปรึกษาและตกลงให้แต่งงานกัน ดิฉันใช้ชีวิตอยู่กับแฟนได้เพียง 2 ปีก็มีปัญหา ทะเลาะกันบ่อยครั้ง จนสุดท้ายเลือกที่จะแยกทางกัน”
นางสาวเอกล่าวว่า ตอนนี้ต้องเลี้ยงดูลูก ต้องเป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับลูก และตั้งใจไว้ว่าจะเรียนต่อให้จบปริญญาตรีเพื่อเป็นของขวัญให้พ่อและแม่ สิ่งที่ทำให้ลุกขึ้นมาสู้ชีวิตก้าวเดินต่อไปได้ก็เพราะลูก ประสบการณ์ครั้งนี้จะเป็นเกราะป้องกันชีวิตให้กับเราได้ อยากฝากถึงเยาวชนให้ฉุกคิดและมีระเบียบในการใช้ชีวิต มีรักอย่างปลอดภัย อย่าคิดว่าเป็นเรื่องสนุก เพราะแค่ครั้งเดียวจะต้องทุกข์ไปทั้งชีวิต รักตัวเองให้มาก
“ขอฝากไปถึงผู้ใหญ่เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นต้องไม่โทษเด็ก ตบตีหรือด่าทอ เพราะไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง เด็กอาจหลงไปในทางที่ผิดคิดสั้นได้ และทุกครอบครัวควรมีเวลาให้ลูกอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งเพื่อพูดคุย อย่าลืมว่าเด็กทุกคนต้องการการเอาใจใส่ ไม่ใช่การเลี้ยงด้วยเงิน ตนยังโชคดีที่มีพ่อแม่ที่เข้าใจและให้โอกาส”
ด้านนายบี (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก ร่วมบอกเล่าว่า ตนเองเติบโตมาในครอบครัวที่ใช้ความรุนแรง ตั้งแต่จำความได้เห็นภาพพ่อเมาเข้าบ้านมา โมโหก็จะเข้าไปทำร้ายแม่ รู้สึกโกรธเพราะสงสารแม่ แต่ด้วยความเป็นเด็กทำอะไรไม่ได้ก็เก็บไว้ ในใจ เมื่อโตขึ้นและออกมาอยู่กินกับแฟนสาวตนเองชอบดื่มเหล้าเมากลับบ้านและทำร้ายแฟนสาวด้วยอารมณ์ร้อน หลังเข้ารับการอบรมก็รู้จักใช้สติแก้ปัญหามากขึ้น ไม่ทำร้ายแฟน อารมณ์ไม่ร้อนเหมือนแต่ก่อน จะคิดก่อนทำมากขึ้น
นางทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก กล่าวว่าการตั้งครรภ์ไม่พร้อมไม่ใช่การก่ออาชญากรรม ดังนั้นสังคมไม่ควรไปตั้งข้อรังเกียจกับสิ่งที่ผิดพลาดของเด็กเยาวชน ไม่ควรไปตีตราจนเด็กไม่มีที่ยืน ต้องพูดคุยด้วยใจที่เปิดกว้าง หาทางออกที่ดีที่สุด เชื่อว่าฝันร้ายจะผ่านไปได้ หากครอบครัวไหนที่มีลูกยังเล็กต้องสร้างทุนทางความคิดเผื่อไว้ให้มาก เพราะเมื่อเขาย่างเข้าสู่วัยรุ่นหรือวัยที่เขามีความพร้อม ทุนทางความคิดเหล่านี้จะช่วยกระแทก กันบาดเจ็บให้กับเขาได้ แต่ถ้าเมื่อใดเราไม่ได้ทำทุนเอาไว้ มัวแต่หลงทางกับการหาเงิน เมื่อเด็กโตขึ้นเด็กก็หลงทางตามผู้ใหญ่ แล้วจะมาโทษเด็กฝ่ายเดียวได้อย่างไร
“ผู้ใหญ่ต้องให้อาวุธทางความคิด ไม่ใช่ให้เงินทองและข้าวปลาอาหารเพียงอย่างเดียว โลกเราเปลี่ยนไปมาก ผู้ปกครองต้องรู้เท่าทัน หากไม่เคยคุยเรื่องนี้กับลูก ไม่มีการแลกเปลี่ยนเอาใจใส่กัน เป็นไปได้สูงที่เด็กจะรับอิทธิพลเหล่านี้โดยที่ไม่มีแรงปะทะหรือค้ำยันเอาไว้ พัฒนาการแบบนี้เกิดขึ้นได้ในวัยหนุ่มสาว ถ้าเราไม่เคยเฝ้าระวังแต่ลุกขึ้นมาตอกย้ำซ้ำเติมถือว่าไม่ยุติธรรมสำหรับเด็ก เพราะเราไม่เคยให้ทุนทางความคิดกับเด็กตั้งแต่ต้น” นางทิชากล่าว
ด้าน นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่าสังคมไทย ยังมองวันวาเลนไทน์ว่าเป็นวันที่ต้องแสดงความรัก มองแบบมีทัศนคติเชิงลบ โดยเฉพาะผู้ชายที่มองว่าต้องได้อะไรจากฝ่ายหญิง โดยเฉพาะเรื่องการมีความสัมพันธ์ ดังนั้นต้องเร่งแก้ทัศนคติ ใหม่ ให้เขาใช้วันวาเลนไทน์เปลี่ยนมุมมองนิยามความรักว่าไม่ใช่การครอบครอง แต่ควรเป็นการให้เกียรติผู้หญิง มองความรักเป็นเรื่องบริสุทธิ์ และสิ่งสำคัญไม่จำเป็นต้องตอบแทนความรักด้วยเรื่องเพศสัมพันธ์ จึงอยากฝากถึงผู้หญิงให้ตระหนักคิดโดยแสดง ความกล้าหาญปฏิเสธเรื่องเพศสัมพันธ์ เพราะการพิสูจน์รักแท้คือการร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน และอย่าประมาทฤทธิ์แอลกอฮอล์
“หน่วยงานต่างๆ มักแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เน้นแต่เรื่องสอดส่องดูแล เช่น ตรวจเข้มตามโรงแรม เฝ้าระวังตามพื้นที่เสี่ยง โดยไม่เคยพูดหรือชี้แนะผลกระทบที่จะเกิดขึ้น หรือให้เขาเข้าใจว่าความรักไม่หวังผลตอบแทนเป็นอย่างไร เยาวชนที่ก้าวพลาดไปแล้วผู้ใหญ่ไม่ควรซ้ำเติมเด็ก ควรให้เขามองจุดนั้นเป็นบทเรียนเพื่อให้เขามีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นได้ สำคัญที่สุดคือผู้ใหญ่เองต้องเปิดใจรับฟังอย่างมีสติ” ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลทิ้งท้าย
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด