เปิดโมเดลวังน้ำเขียว นครปฐม ต้นแบบตำบลขับขี่ปลอดภัย
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
แฟ้มภาพ
การลดอุบัติเหตุทางถนนให้ประสบความสำเร็จ ต้องอาศัยพลังข้อมูล พลังเครือข่าย การมีส่วนร่วมของชุมชน หน่วยงานท้องถิ่น เครือข่าย รพ.สต. จึงเป็นส่วนประกอบที่สำคัญยิ่งในการสร้างตำบลขับขี่ปลอดภัย ดังเช่นที่ตำบลวังน้ำเขียว อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เผยถึงความสำเร็จของการร่วมมือผลักดันแก้ไขและลดอุบัติเหตุของเครือข่ายตำบลวังน้ำเขียว อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม หลังลงพื้นที่เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถอดบทเรียนแก้ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนจากความร่วมมือของหน่วยสาธารณสุข ฝ่ายปกครอง และชุมชน พร้อมยกระดับให้เป็นชุมชนต้นแบบด้านความปลอดภัยบนท้องถนน โดย สสส. เข้ามาช่วยพัฒนาและสานพลัง 'เครือข่าย' โดยริเริ่มจากเครือข่ายหมออนามัยรุ่นใหม่
สสส. ได้ยกให้ตำบลวังน้ำเขียวเป็น ตำบลขับขี่ปลอดภัย ที่จะขยายการทำงานไปสู่ระดับอำเภอ ให้ทั้งอำเภอมีรูปแบบการทำงานที่มีแกนนำมีเครือข่ายเข้ามามีส่วนร่วม และมีข้อมูลในการขับเคลื่อนการทำงาน มีแผนปฏิบัติการ รวมถึงการร่วมแรงร่วมใจของอาสาสมัคร เชื่อว่าท้ายที่สุดทั้งอำเภอกำแพงแสนก็จะลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้ แล้วภาพรวมทั้งประเทศก็สามารถทำให้ตัวเลขของอุบัติเหตุ ลดลงได้อย่างแท้จริง การลดอุบัติเหตุในตำบลวังน้ำเขียว เกิดจาก 3 ส่วนสำคัญ ก็คือ ถนน พฤติกรรมการใช้รถ และเครือข่าย ซึ่งขณะนี้ทั้ง 3 ส่วนขับเคลื่อนเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง กล่าวคือ ถนนมีการแก้ไขจุดเสี่ยง เรื่องพฤติกรรมผู้ใช้รถของประชาชนปีนี้ถ้าสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง จะมีแผนพัฒนาเรื่องสวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญคือพลังของ อสม. ที่คอยกระตุ้นประชาชนให้เกิดการตระหนักรู้ เกิดการขยายงานรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนนเข้าสู่กลุ่มเด็กในโรงเรียนเพื่อสร้างความตระหนักรู้เรื่องการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน พร้อมทั้งส่งเสริมจูงใจให้พ่อแม่ผู้ปกครองเห็นความสำคัญในการป้องกันมากขึ้น
นายชรินทร์ ศรีศิริวัฒน์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และ อดีตนายก อบต.วังน้ำเขียว กล่าวว่า จุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งในตำบลวังน้ำเขียว คือบริเวณวงเวียนที่มีตลาด ซึ่งในอดีตเป็นสี่แยก ขณะนั้นมีความคิดที่จะทำให้เกิดความปลอดภัย จึงปรึกษา รพ.สต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เมื่อหารือกันแล้วเกิดเป็นแนวทาง การทำวงเวียนขึ้น สมัยเป็นสี่แยกอุบัติเหตุหลายครั้งในหนึ่งเดือน เราเห็นแล้วว่าส่วนมากจะเป็นคนนอกพื้นที่ ไม่เห็นแยกก็ชนกับคนในพื้นที่ จึงทำวงเวียนขึ้น แม้ในช่วงแรกๆ คนจะไม่ค่อยยอมใช้กัน แต่เมื่อเรารณรงค์ คนเริ่มทำตามก็ลดลงไปด้วยบ้าง ที่สำคัญเรื่องของจุดเสี่ยงได้ช่วยเหลือในการปิดจุดเสี่ยง เช่น ทำป้ายลดความเร็ว ป้ายสัญญาณจราจร บอกระยะก่อนถึงทางแยก โดยให้ทางกองช่าง เข้าไปช่วยดำเนินการ ทำให้ชุมชนเราเกิดความปลอดภัยสูงขึ้น
นางสุดใจ มอนไข่ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) วังน้ำเขียว กล่าวต้อนรับพร้อมนำเยี่ยมชมพื้นที่จุดเสี่ยงในชุมชน พื้นที่ตำบลวังน้ำเขียวเริ่มทำโครงการ 'หมออนามัยขับเคลื่อน ประชารัฐ ลดอุบัติเหตุจราจรในชุมชน' โดยมีภาคีเครือข่ายสุขภาพตำบลวังน้ำเขียว อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ขอบเขตการดูของ รพ.สต.วังน้ำเขียวครอบคลุม 8 หมู่บ้าน 1,113 ครัวเรือน 4,807 คน และที่ผ่านมามีการเก็บสถิติด้านสาธารณสุขของคนในพื้นที่ พบว่ามีการเจ็บป่วยจากอุบัติเหตุเป็นอันดับ 2 รองจากโรค NCDs ทางผู้เกี่ยวข้อง จึงเล็งเห็นว่าการเจ็บป่วยจากอุบัติเหตุมีความสำคัญที่ต้องได้รับการป้องกัน แก้ไข โดยได้รับความร่วมมือจาก องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น, อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และการสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพบุคลากรและงบประมาณจาก สสส.
นอกจากนี้ยังประชาสัมพันธ์ สร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชน รวมถึงขยายสู่โรงเรียน ในเรื่องความสำคัญการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน การลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุ การปฐมพยาบาล อย่าง PCR เป็นต้น โดยผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นพบว่า ตำบลวังน้ำเขียวมีทีมงานที่ดำเนินการเรื่องถนนปลอดภัย ประชาชนมีความตระหนักรู้ในเรื่องความปลอดภัยทางถนน พฤติกรรมการใช้วงเวียน การสวมหมวกนิรภัยของชาวบ้านดีขึ้น การจัดการแก้ไขจุดเสี่ยงทำได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งทำให้ตำบลวังน้ำเขียวได้รับรางวัล D-RTI (District Road Traffic Injury) ระดับทองในปี พ.ศ. 2562 จากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
นางอำพันธ์ ศิริสุข ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 และ ประธาน อสม. หมู่ 3 ตำบลวังน้ำเขียว อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม เล่าว่า ในอดีตอุบัติเหตุในพื้นที่มีเยอะมาก ทุกคนจึงรวมตัวศึกษาปัญหาโดยมีหมออนามัย ผู้นำชุมชน อสม. ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย ตลอดจนอาสาสมัครในชุมชน เริ่มจากการปรับปรุงภูมิทัศน์ถนนหนทาง โดยกำหนดให้ทุกๆ วันที่ 26 ของเดือน เก็ยขยะข้างทาง ตัดต้นไม้ กวาดถนน เพราะรถที่ใช้เป็นจักรยานยนต์มักสะดุดเศษหิน ทราย จนเสียหลัก
ด้าน นางสาวสุกัญญา บัตรดี เป็นประธาน อสม. หมู่ 14 ตำบลวังน้ำเขียว อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม กล่าวว่า พื้นที่หมู่ 14 แต่ก่อนมีอุบัติเหตุจนมีคนเสียชีวิตจากเมาแล้วขับ พอมีโครงการจึงเข้าร่วมและชวนคนในชุมชนเข้ามาร่วมด้วย ผลปรากฎว่าเกิดอุบิตเหตุน้อยลง คนเมาแล้วขับน้อยลง แทบไม่เกิดอุบัติเหตุ และมีการทำงานเชิงรุก เช่น เห็นพฤติกรรมใครที่ขับขี่เร็วจะส่งอาสาไปถึงบ้านเพื่อสื่อสาร ให้เกิดความเข้าใจเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่ เพราะไม่อยากให้เกิดความสูญเสียในพื้นที่หมู่บ้าน เพราะทุกคนเป็นเหมือนญาติพี่น้องของเรา