เปิดอาคารกีฬานิมิบุตร 171 เตียง รองรับผู้ป่วยโควิด-19
ที่มา : สยามกีฬา
แฟ้มภาพ
เปิดใช้อาคารกีฬานิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ เพื่อจัดตั้งศูนย์แรกรับและส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 โดยบุคลากรของกรมพลศึกษา และกลุ่มจิตอาสา 904 ได้ร่วมกันจัดเตรียมพื้นที่ไว้รองรับผู้ป่วยได้ 171 เตียง ตามมาตรฐานตามกระทรวงสาธารณสุขกำหนด
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เดินทางตรวจความพร้อมของ อาคารกีฬานิมิบุตร ภายในสนามกีฬาแห่งชาติ เพื่อเตรียมใช้เป็นศูนย์แรกรับและส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 ตามนโยบายของรัฐบาลสำหรับรองรับผู้ติดเชื้อโควิด 2019 เมื่อ วันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา
สำหรับการจัดตั้งศูนย์แรกรับผู้ป่วยโควิด-19 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เปิดใช้อาคารกีฬานิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ เพื่อจัดตั้งศูนย์แรกรับและส่งต่อ ผู้ป่วยโควิด โดยบุคลากรของกรมพลศึกษา และกลุ่มจิตอาสา 904 ได้ร่วมกันจัดเตรียมพื้นที่ไว้รองรับผู้ป่วยได้ 171 เตียง ตามมาตรฐานตามกระทรวงสาธารณสุขกำหนด อาทิ การบริการทางการแพทย์, การบริหารจัดการด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อม, ระบบการกำจัดขยะระบบไฟฟ้า, ระบบการขนส่ง เพื่อส่งต่อผู้ติดเชื้อไปยังโรงพยาบาล หรือโรงพยาบาลสนามอื่น ๆ
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ศูนย์แรกรับผู้ป่วยโควิด-19 จะเข้ามารองรับและแก้ปัญหาเตียงเต็มในกทม.ให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลของแพทย์ ด้วยอุปกรณ์รักษาพยาบาลโรคโควิด-19 ครบครัน ก่อนนำส่งต่อไปยังโรงพยาบาลต่อไป และในอนาคต หากสถานการณ์ดีขึ้น ผู้ป่วยลดจำนวนลงแล้ว ศูนย์แรกรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่อาคารนิมิบุตรแห่งนี้ ก็สามารถปรับใช้เป็นสถานที่ฉีดวัคซีนเพื่อบริการแก่ประชาชนทั่วไปด้วย
ด้าน ดร. ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ โดยกกท.ได้ให้ความร่วมมือกับจังหวัดที่ต้องการใช้สถานที่ในสนามกีฬากลางของแต่ละจังหวัด จัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนามเพื่อดูแลผู้ป่วยแล้ว 6 แห่ง ได้แก่ ตรัง, เพชรบูรณ์ ,แม่ฮ่องสอน, อำนาจเจริญ, นราธิวาส และ กระบี่
สำหรับ อินดอร์สเตเดี้ยมหลังเล็กและศูนย์กีฬาในร่ม ภายใน กกท.หัวหมาก นั้น กระทรวงสาธารณสุข ขอให้เตรียมใช้เป็นสถานที่สำรองในกรณีที่มีเคสผู้ป่วยจากอาคารกีฬานิมิบุตร มีมากจนรองรับไม่พอ ซึ่ง กกท. ยืนยันความพร้อมที่จะให้การสนับสนุนทุกด้าน เพื่อให้เราผ่านช่วงสถานการณ์แบบนี้ไปให้ได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การรักษาสุขภาพของตนเอง ด้วยความไม่ประมาท และปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ดร.ก้องศักด กล่าวทิ้งท้าย
ฝ่ายจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และพาราลิมปิกที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ให้นักกีฬาที่เข้าร่วมแข่งขันจะต้องทำการตรวจเชื้อโควิด-19 อย่างน้อยวันละหนึ่งครั้งในช่วงที่อยู่ในการแข่งขันที่กรุงโตเกียว หากใครไม่ให้ความร่วมมือส่งกลับประเทศทันที
ก่อนหน้านี้ทางฝ่ายจัดการแข่งขันออกแบบสิ่งที่เรียกว่า Playbook หรือคู่มือการแข่งขันสำหรับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก ที่จะเริ่มต้นในวันที่ 23 กรกฎาคม – 8 สิงหาคมนี้ ต่อด้วยการแข่งขันพาราลิมปิกที่จะเริ่มต้นในวันที่ 24 สิงหาคม นี้ เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เข้าร่วมเข้าใจมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต่างๆ ระหว่างที่เข้าร่วมการแข่งขัน
ล่าสุด ฝ่ายจัดการแข่งขันได้อัปเดตคู่มือใหม่ โดยเพิ่มมาตรการต่างๆ เข้าไปในคู่มือการแข่งขัน หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศญี่ปุ่นมีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง จนรัฐบาลต้องประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นครั้งที่ 3 โดยอัปเดตใหม่นี้ระบุว่า นักกีฬาที่เข้าร่วมแข่งขันต้องตรวจเชื้อโควิด-19 ทุกวัน สวมใส่หน้ากากตลอดเวลา ยกเว้นตอนทานอาหาร นอน ฝึกซ้อม หรือแข่งขัน คนที่เดินทางมาจากต่างประเทศจะได้รับโทรศัพท์พร้อมกับแอปพลิเคชันที่ใช้รายงานสุขภาพร่างกายและการติดตามตัว
ส่วนการแข่งขันครั้งนี้จะไม่มีแฟนกีฬาจากต่างประเทศ และแฟนกีฬาในประเทศ ฝ่ายจัดการแข่งขันจะประเมินสถานการณ์และตัดสินใจภายในเดือนมิถุนายนนี้ ด้านวัคซีนป้องกันโควิด-19 นักกีฬาทุกคนไม่จำเป็นต้องฉีดก่อนเข้าร่วมแข่งขัน แต่ทุกคนต้องกักตัวอย่างน้อย 3 วันหลังจากที่เดินทางมาถึงญี่ปุ่น ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ประกอบไปด้วย
- ผู้คนที่เดินทางมาจากนอกญี่ปุ่น จะต้องตรวจเชื้ออย่างน้อย 2 ครั้งก่อนออกเดินทาง
- นักกีฬาจะต้องตรวจเชื้อทุกวัน เพื่อลดความเสี่ยงในการค้นหาเชื้อ
- ส่วนคนอื่นๆ นอกจากนักกีฬา จะได้รับการตรวจเชื้อ 3 วันแรกที่มาถึง และจะได้รับการตรวจเชื้ออย่างต่อเนื่อง
- ผู้เข้าร่วมทั้งหมดจะไม่สามารถใช้งานขนส่งมวลชนได้ แต่จะใช้รถของฝ่ายจัดการแข่งขันทั้งหมดแทน
- ผู้โดยสารในรถของการแข่งขัน ห้ามพูดคุยกันระหว่างทาง
- ทุกคนที่เข้าร่วมจะรับประทานอาหารได้ในพื้นที่ที่กำหนด ในสนามแข่งขัน หรือร้านอาหารในสถานที่พัก หรือในห้องพักของพวกเขาเอง หากนักกีฬาที่ปฏิเสธความร่วมมือในการตรวจเชื้อโควิด-19 จะถูกส่งกลับประเทศทันทีโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น