เปิดลับหน้ากากอีกาดำ แพ้มาไม่รู้เท่าไหร่ กว่าจะชนะในวันนี้
เปิดลับหน้ากากอีกาดำ แพ้มาไม่รู้เท่าไหร่ กว่าจะชนะในวันนี้
ภายใต้หน้ากากอีกาดำ นักร้องเสียงทรงพลัง ก็คือ ชายคนหนึ่งที่ชื่อ จิรากร สมพิทักษ์ ผู้เป็นสามี และพ่อของลูกๆ แต่ก่อนจะถึงวันนี้เขาก็เคยเป็นเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไปที่ชอบรู้ชอบลอง และหนึ่งในความอยากรู้อยากเห็นก็คือ การสูบบุหรี่ คุณเอ๊ะเล่าว่า เริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6
“ตอนนั้นแค่อยากลอง และไม่รู้โทษของมัน เลยสูบเรื่อยมา แรกๆ สมัยเป็นนักเรียนก็แค่วันละมวนสองมวน เริ่มสูบเยอะขึ้นสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เพราะอิสระเต็มที่ ยิ่งวันไหนดื่มด้วย อาจเป็นวันละซอง แต่ถ้าหนักสุดก็ถึง 2 ซอง”
คุณเอ๊ะยอมรับว่า ตอนนั้นตัวเองติดบุหรี่ไปเรียบร้อย เพราะต้องสูบบุหรี่หลังกินข้าว หรือเวลาเข้าห้องน้ำเป็นประจำ
แล้วอะไรทำให้คนที่ติดบุหรี่เป็นสิบๆ ปี ตัดสินใจลุกขึ้นมาตั้งเป้าหมาย เปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้นด้วยตัวเอง
“เพราะสุขภาพครับ โรคภูมิแพ้กลับมากำเริบหนัก จนร้องเพลงไม่ได้ ก็เลยตัดสินใจเลิกสูบครั้งแรก…”
แต่อย่างที่รู้ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครๆ จะเอาชนะบุหรี่ได้ คุณเอ๊ะก็เช่นกัน การเลิกสูบบุหรี่ครั้งแรกจึงไม่สำเร็จเด็ดขาด เขาพ่ายแพ้ต่อบุหรี่ และกลับมาสูบอีกครั้ง
“ตอนนั้นแพ้หลายครั้งเลยครับ แพ้บรรยากาศ เห็นเพื่อนสูบ ก็อดใจไม่ไหว แต่พอตื่นมาก็รู้สึกแย่ ทรมาน แพ้ใจตัวเองอีกแล้ว”
คนเราพ่ายแพ้ได้ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่สำคัญคือแพ้แล้วต้องลุกขึ้นใหม่ หาเป้าหมายในชีวิตให้เจอ แล้วมุ่งหน้าต่อไป
สำหรับคุณเอ๊ะ มาถึงวันหนึ่งเขาก็ได้พบเป้าหมายในชีวิตที่ใช้เป็นพลังในการลุกขึ้นมาสู้กับบุหรี่อีกครั้ง
“คราวนี้ตัดสินใจเลิกเพราะมีลูกครับ และเรารับรู้ข้อมูลข่าวสารมากขึ้น โดยเฉพาะอันตรายของบุหรี่มือสองที่ต่อให้เราไม่ได้สูบในบ้าน แต่ควันบุหรี่ก็ยังตามไปทำร้ายเค้าได้ ยิ่งตอนลูกบ่นว่าเหม็นเวลาผมเข้าไปกอด รู้สึกเหมือนโดนมีดแทงที่ใจ เลยอยากทำให้ดีกว่าเดิม”
คุณเอ๊ะเสริมว่า การเลิกบุหรี่ครั้งที่ 2 นี้มีวิธีเลิกแบบค่อยเป็นค่อยไป
“ผมเริ่มตั้งเงื่อนไขให้ตัวเอง คือ ไม่สูบบุหรี่ในบ้าน และไม่สูบก่อนร้องเพลง พอไม่สูบในบ้าน ก็จะไม่ได้สูบตอนเข้าห้องน้ำ และหลังกินข้าว ก็เลยค่อยๆ สูบน้อยลงได้”
แต่ที่น่าตื่นเต้นเมื่อได้ฟังคำบอกเล่าจากคุณเอ๊ะ ก็คือการได้รับแรงบันดาลใจอย่างไม่คาดฝัน
“มีอยู่วันหนึ่ง ผมสูบบุหรี่อยู่หน้าตึกแกรมมี่ มีรถตู้มาจอดข้างๆ คนข้างในลดกระจกลงมา และพูดกับผมว่า ‘เอ๊ะ การสูบบุหรี่ไม่ดีนะ’ เชื่อไหมครับ คนนั้นคือพี่เบิร์ด ธงไชย โอ้โห นั่นคืออีกแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมต้องเลิกบุหรี่ให้ได้”
หลังจากมีเป้าหมายชัดเจน และมุ่งมั่นไม่ย่อท้อ คุณเอ๊ะก็สามารถเอาชนะบุหรี่ได้อย่างราบคาบ และชัยชนะครั้งนี้ก็สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตไม่น้อย
“พอเลิกบุหรี่แล้ว ก็ร้องเพลงดีขึ้น หายใจดีขึ้น สามารถลากเสียงยาวๆ ได้ ถ้าใครรู้จักผมมาก่อน จะรู้ว่า แต่ก่อนผมไม่ได้ร้องเพลงแบบนี้ได้นะ เลิกบุหรี่ เลยร้องได้”
“แต่ที่สำคัญที่สุดคือ เวลากอดลูกตอนนี้จะรู้สึกสบายใจ ลูกเองก็สบายใจที่จะกอดเรา เค้าบอกว่า ป๊าไม่เหม็น ได้คำชมจากเค้า ป๊าเก่งจังเลิกบุหรี่ได้ แค่ประโยคๆ เดียว ผมก็มีความสุข มันเป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่”
ก่อนจากกัน คุณเอ๊ะยังได้ฝากข้อคิดถึงใครก็ตามที่ยังแพ้ใจตัวเอง หรือท้อที่ยังเลิกบุหรี่ไม่ได้
“ก่อนอื่นขอให้หาสิ่งที่เรารักให้เจอก่อน และระหว่างสิ่งนั้นกับบุหรี่ ให้คิดดูว่าจะเลือกสิ่งไหน และที่สำคัญอยากให้คุณมีความรักให้กับตัวเอง แล้วคุณจะรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ควรจะทำให้กับชีวิต”
ชีวิตของคนเรามีใครบ้างที่ไม่เคยพ่ายแพ้ ความพ่ายแพ้จึงไม่ใช่สิ่งแปลกปลอมในชีวิต ขอเพียงไม่ย่อท้อไปเสียก่อน ลุกขึ้นทุกครั้งที่แพ้ มองความพ่ายแพ้ในวันนี้เป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งที่จะนำไปสู่ชัยชนะวันรุ่งขึ้น
เชื่อเถอะว่า ชัยชนะจะรอคุณอยู่ไม่ไกล
สสส.ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่สู้ไม่ถอยด้วยการบอกต่อเรื่องราวดีๆ และหากสนใจอยากอ่านเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่ http://bit.ly/2Zzsxzr