เปิดพื้นที่สร้างสรรค์ เยาวชนไม่น่าเบื่อ
เรื่องโดย : แพรวพรรณ สุริวงศ์ team content www.thaihealth.or.th
เด็กและเยาวชนอยู่ในวัยที่กำลังเรียนรู้ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา การมีพื้นที่สร้างสรรค์ให้พวกเขาเหล่านี้ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ เป็นอีกหนึ่งการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อรับมือกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
การมีพื้นที่สร้างสรรค์ให้เด็กๆ และเยาวชน ได้เรียนรู้จึงเป็นสิ่งสำคัญต่อพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัย “ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส.” เป็นอีกหนึ่งพื้นที่การเรียนรู้สร้างสรรค์ใจกลางเมืองที่เหมาะสำหรับเด็กและเยาวชน และฉีกกฏศูนย์เรียนรู้ทุกพื้นที่ด้วยกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาวะที่หลากหลาย
นางเบญจมาภรณ์ ลิมปิษเฐียร ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) อธิบายถึงความหมายของพื้นที่สร้างสรรค์ ให้ฟังว่า พื้นที่สร้างสรรค์เป็นพื้นที่แห่งการสร้างประสบการณ์เรียนรู้ร่วมกัน สำหรับศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. เป็นพื้นที่ที่นอกจากเด็กๆ แล้วบุคคลทั่วไปก็สามารถเข้ามาเรียนรู้ได้ เพราะมีทั้งรูปแบบการเรียนรู้ได้ด้วยตนเองและผ่านการบอกเล่าจากผู้ที่มีประสบการณ์ตรง ด้วยนิทรรศการหลักและกิจกรรมหมุนเวียน ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในอาคารต้นแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อนุรักษ์พลังงาน หรือที่เรียกว่า Green Building
“สำหรับอาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะแห่งนี้ ได้ถูกออกแบบโดยมีพื้นส่วนของออฟฟิศ 20% ส่วนอีก 80% เปิดเป็นพื้นที่สาธารณะ โดยเฉพาะการสร้างประสบการณ์เรียนรู้โดยตรง เพราะเราเชื่อว่าการเรียนรู้สามารถส่งต่อได้ใน 2 รูปแบบ ได้แก่ส่งตรงไปยังผู้ที่ได้รับผลประโยชน์โดยตรงทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปถ่ายทอดนำไปสู่การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง เช่นพฤติกรรมการบริโภค การออกกำลังกาย รวมถึงแรงบันดาลใจและทักษะการใช้ชีวิตที่สอดแทรกอยู่ในสื่อการเรียนรู้” นางเบญจมาภรณ์ อธิบายเพิ่มเติม
ผอ.ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. ยังเล่าถึงนิทรรศการที่นำมาจัดแสดงว่า เป็นนิทรรศการเพื่อการเรียนรู้สุขภาวะ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือ นิทรรศการหลักที่จะบอกเล่าถึงการสร้างสุขภาวะองค์รวม ซึ่งหมายถึง สุข+ภาวะ ทั้งด้านร่างกาย ปัญญา จิตใจ และสังคม เป็นการเรียนรู้เพื่อปรับตัวในการสร้างความสุขทั้ง 4 ด้าน ส่วนที่2 คือนิทรรศการหมุนเวียน โดยจะมีการปรับเปลี่ยนตลอดทั้งปี เช่น การให้ความรู้เรื่องบุหรี่ การบริโภคน้ำตาล และการออกกำลังกาย เป็นต้น
นางเบญจมาภรณ์ บอกต่อด้วยว่า นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือส่งเสริมกิจกรรมทางกายเพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหวของร่างกาย มีทั้ง Music ladder ดนตรีขั้นบันไดที่จะทำให้ผู้ที่กำลังเดินขึ้นบันไดได้สัมผัสเสียงดนตรีทุกย่างก้าว Active wall จอทัชสกรีนขนาดใหญ่ให้เด็กๆ ได้ขยับร่างกายด้วยการวิ่งแตะลูกบอลไปให้สุดกำแพง รวมถึง X box กิจกรรมที่จะได้ใช้ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาในการกระโดดเก็บเหรียญในเกม ซึ่งเหล่านี้ล้วนส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมทางกายสำหรับเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นสื่อที่เข้าถึงง่ายและทำให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติ เพราะการเรียนรู้เรื่องสุขภาพไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือเคร่งเครียด การเล่นเกมง่ายๆ ก็สามารถกระตุ้นให้เด็กๆ ได้ออกกำลังกายได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมกิจกรรมทางกายอีกด้วย”
ผอ.ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. บอกเล่าถึงเสน่ห์ของศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. ว่า ด้วยตัวอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีพื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบเปิดโล่งรับลมธรรมชาติ ทำให้ภายในอาคารมีความเย็นตลอดทั้งปีทำให้ประหยัดพลังงานไปในตัว รวมถึงห้องสมุดที่เป็นแหล่งรวมข้อมูลความรู้ด้านสุขภาวะจาก สสส. มีพื้นที่สำหรับทำงาน อ่านหนังสือ และยังมีคอมพิวเตอร์เพื่อการค้นคว้าไว้ให้บริการ มีห้องอาหารที่บอกข้อมูลโภชนาการของอาหารแต่ละชนิดและบอกข้อมูลด้านสุขภาพสำหรับการกินอาหาร และที่สำคัญคือการมีกิจกรรมที่หลากหลากหลายและเหมาะสำหรับทุกวัย
การศึกษาในโรงเรียนเป็นสิ่งสำคัญ แต่การได้ศึกษาและเรียนรู้จากประสบการณ์โดยตรงด้วยตนเองจะทำให้เด็กๆ ได้เปิดโลกที่กว้างขึ้น ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. เป็นอีกหนึ่งพื้นที่สร้างสรรค์ที่เน้นให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ เพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และนำมาสู่การมีสุขภาะที่ดีสำหรับคนทุกวัย
สามารถเดินทางมาได้ง่่ายๆ ที่ อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ (สสส.) 99/8 ซอยงามดูพลี ถนนพระรามสี่ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ เปิดบริการ 9.00-17.00 น. จันทร์-เสาร์ เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือ ติดตามกิจกรรมต่างๆ ได้ที่ เว็บไซต์ศูนย์เรียนสุขภาวะ สสส.