เปิดตัวหนังสือ “สุราไม่ใช่สินค้าธรรมดา” เห็นแค่ปกก็อยากเปิดอ่านแล้ว
เรื่องโดย อัจฉริยา คล้ายฉ่ำ Team Content www.thaihealth.or.th
ข้อมูลจาก งานเปิดตัวหนังสือ “สุราไม่ใช่สินค้าธรรมดา” โฉมใหม่ ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น
กรุงเทพมหานคร และหนังสือสุราไม่ใช่สินค้าธรรมดาฉบับที่สาม
ภาพโดย ปารมี ขันธ์แก้ว Team Content www.thaihealth.or.th และแฟ้มภาพ
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัญหาอันดับต้น ๆ ทำให้เกิดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ สังคม และสิ่งแวดล้อม พบความพยายามเผยแพร่ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีเจตนาสร้างค่านิยมส่งเสริมการดื่มให้มองว่าการดื่มเป็นเรื่องปกติ
แต่นักวิชาการในระดับโลก จำนวนถึง 15 คน ได้ระดมสมองและทำการศึกษาวิจัย ร่วมแต่งหนังสือ Alcohol :No Ordinary Commodity : Research and Public Policy (Second Edition) หรือ ANOC และได้นำมาแปลเป็นฉบับภาษาไทย “สุราไม่ใช่สินค้าธรรมดา” เพื่อเป็นข้อยืนยันว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ใช่แค่สินค้าธรรมดาทั่วไปที่ใครจะไว้ใจได้ เพื่อให้สังคมได้รับทราบถึงผลกระทบและความสูญเสียมากเพียงใดต่อสังคม ทั้งด้านสุขภาพ อุบัติเหตุ การก่อเหตุทะเลาะวิวาท
เพียงยกตัวเลขที่เป็นปัญหาอันดับต้น ๆ อันเนื่องมาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลให้ “ประชากรทั่วโลกตายปีละ 2.5 ล้านราย คนไทยตายปีละ 2.6 หมื่นรายหรือชั่วโมงละ 3 คน ล้วนสาเหตุจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” เป็นข้อยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ธรรมดา
ปัจจุบันเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากเป็นสิ่งที่ถูกนำไปใช้ในการเฉลิมฉลองเทศกาลและสถานการณ์ต่าง ๆ อาทิ ใช้ประกอบพิธีกรรม งานเลี้ยงสังสรรค์ ประเพณี การเข้าสังคม ซึ่งล้วนอยู่ในช่วงชีวิตคนนับตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ เรียกได้ว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีอยู่ทุกสถานการณ์ชีวิตไปเสียแล้ว และดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับบางคนด้วยซ้ำ
นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ประธานคณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 1 สสส. กล่าวบนเวทีสัมมนาวิชาการ เปิดตัวหนังสือ “สุราไม่ใช่สินค้าธรรมดา” ที่ร่วมกับศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) และภาคีเครือข่ายสานพลัง ว่า การศึกษาต้นทุนผลกระทบทางสังคมจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในไทย ปี 2564 พบว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ 165,450 ล้านบาท เป็นปัจจัยส่วนหนึ่งทำให้ประชาชนเสียชีวิตก่อนวัยอันควร สร้างความสูญเสียให้กับประเทศในวงกว้าง และนับเป็นความสูญเสียที่ประเมินค่าไม่ได้
“สสส. สานพลังภาคีเครือข่าย กระตุ้นเตือนสังคมเห็นอันตรายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 3 ข้อ คือ
1.พัฒนาและผลักดันนโยบายสาธารณะ สนับสนุนการบังคับใช้กฎหมาย
2.พัฒนาฐานข้อมูลเชิงวิชาการจัดการความรู้ และ
3.พัฒนาต้นแบบนวัตกรรมหรือการทำงานใหม่ รณรงค์ผ่านช่องทางต่าง ๆ
“…ดังนั้น หนังสือสุราไม่ใช่สินค้าธรรมดา ฉบับแปลเป็นภาษาไทย จึงเป็นอีกหนึ่งองค์ความรู้ ที่ช่วยขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะให้รู้เท่าทันการตลาด และเบื้องหลังพิษภัยจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลายแง่มุม เพื่อสร้างสังคมสุขสร้างสรรค์ และมีสุขภาวะที่ดีทุกมิติ…”
ขณะที่ ศ.ดร.พญ.สาวิตรี อัษณางค์กรชัย ผอ.แผนงานศูนย์วิจัยปัญหาสุรา ศวส. กล่าวบนเวทีสัมนนาฯเดียวกันว่า การแปลและจัดพิมพ์ฉบับภาษาไทยได้รับอนุญาตจากผู้นิพนธ์แล้ว เนื้อหาในหนังสือ มี 5 ส่วน ประกอบด้วย 1.ทำไมสุราจึงไม่ควรจัดให้เป็นสินค้าธรรมดา 2. พัฒนาการของธุรกิจแอลกอฮอล์ 3.ทบทวนหลักฐานสนับสนุนแนวทางนโยบายแอลกอฮอล์ 7 รูปแบบ เริ่มตั้งแต่ มาตรการกำหนดราคาและภาษี, การควบคุมการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, การจำกัดกิจกรรมการตลาด, ยุทธศาสตร์ด้านการให้ความรู้และการโน้มน้าวใจ, มาตรการด้านการดื่มแล้วขับ, การเปลี่ยนบริบทของการดื่ม, การบำบัดรักษาตั้งแต่ระยะแรก 4.ปัญหาท้าทายของการดำเนินนโยบายแอลกอฮอล์อย่างมีประสิทธิภาพ และ 5.ด้านมืดและด้านสว่างของนโยบายแอลกอฮอล์ในระดับนานาชาติ ข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ ศ.ดร.พญ.สาวิตรี กล่าว
Professor Sally Casswell หนึ่งในผู้นิพนธ์หนังสือ “สุราไม่ใช่สินค้าธรรมดา” ฉบับภาษาอังกฤษ กล่าวว่า หนังสือเล่มนี้ เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่มาจากงานวิจัยทั่วโลก บนฐานความแตกต่างตามบริบทวัฒนธรรมและโครงสร้างสังคม ที่มีความหลากหลาย มีข้อสรุปยืนยันตรงกัน คือ
นโยบายเกือบทั้งหมด เน้นควบคุมการเข้าถึงทางกายภาพ ราคา โฆษณาและการตลาด ควบคุมการดื่มแล้วขับให้เป็นนโยบายที่มีประสิทธิภาพ จึงเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับนักวิชาการ และภาคประชาสังคม จะช่วยกันสนับสนุนรัฐบาล ให้เกิดการตัดสินใจที่เหมาะสม
“ซึ่งในสายตาชาวโลกไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ทำเรื่องนี้ได้ดี และ หวังว่าหนังสือจะเป็นตัวช่วยสำคัญ ต่อความเผชิญความท้าทาย และลดอันตรายจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของไทยได้” เธอกล่าว
สสส. และภาคีเครือข่าย ยังคงเดินหน้าส่งเสริมและสนับสนุนภาคประชาสังคม ในนโยบายขับเคลื่อนให้ประชาชนมีสุขภาวะที่ดีและปลอดภัย ด้วยการบังคับใช้กฎหมาย รณรงค์ให้สุราไม่ใช่สินค้าธรรมดา เพื่อสร้างสังคมปลอดภัยสังคมแห่งการมีสุขภาวะที่ดีในทุกมิติ และ หนังสือ “สุราไม่ใช่สินค้าธรรมดา” ซึ่งจะให้คำตอบและจุดประกายให้ผู้อ่านเห็นความสำคัญของการออกนโยบายด้านแอลกอฮอล์ ที่อ้างอิงตามหลักฐานทางวิชาการสมบูรณ์ มีความเหมาะสมกับบริบทของไทยที่สุด