เปิดกว้างโอกาสทางการเรียนรู้

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ภาพประกอบจากแฟนเพจปิดเทอมสร้างสรรค์


เปิดกว้างโอกาสทางการเรียนรู้ thaihealth


สังคมโลกวันนี้ แม้จะมีการเปิดพื้นที่ของโอกาสเพิ่มมากขึ้น แต่ผู้ที่จะฉกฉวยเพื่อไขว่คว้าหาประโยชน์จาก "โอกาสที่เปิดกว้างขึ้น" ก็ต้องเรียนรู้ที่จะ ใช้โอกาสนั้นให้เกิดประโยชน์มากที่สุด และ ได้ประโยชน์ตรงเป้าหมายมากที่สุดเช่นกัน


สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือที่รู้จักกันดี ในนาม สสส.ร่วมกับบริษัทจัดหางาน จ๊อบส์ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด จัดโครงการเปิดเทอมสร้างสรรค์ ตอน "เตรียมตัวสู่โลกของงาน เรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างไรให้ใช้การได้" ที่ตั้งใจให้น้องๆ จากหลายรั้วมหาวิทยาลัยเข้าร่วมกิจกรรมใช้ช่วงเวลาปิดเทอมพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ด้วยการเปิดอบรมด้านภาษาอังกฤษให้แก่ กลุ่มเด็กและเยาวชนระดับอุดมศึกษา โดยเน้นเป้าหมายไปที่ การก้าวเข้าสู่โลกอาชีพ ซึ่งเป็น เป้าหมายสำคัญของการดำรงชีวิตเมื่อก้าวพ้นออกจากรั้วมหาวิทยาลัย


ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วมผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า "การอบรมจะเน้นที่ทักษะภาษาอังกฤษที่นำไปสู่การทำงาน โดยเฉพาะกลุ่มมหาวิทยาลัยที่ต้องพัฒนาทักษะต่างๆ ให้พร้อมและหวังจะให้กิจกรรมครั้งนี้จุดประกาย และสร้างแรงบันดาลใจแก่เด็กในการพัฒนาเรื่องภาษาอังกฤษ ซึ่งจะเป็นแต้มต่อที่ดีกว่าทั้งในแง่การศึกษาความรู้ ทั้งนี้ กิจกรรมนี้ เป็นจุดเริ่มต้นแต่ยังมีอีกหลายโครงการที่เปิดกว้างในช่วงปิดเทอมให้เด็กเลือกสมัครเพื่อพัฒนาตนเองได้ เพราะการใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว ถือเป็นทักษะสำคัญที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานปัจจุบัน ซึ่งการปรับตัวเพื่อสร้างโอกาสให้กับเด็กและเยาวชนในกิจกรรมครั้งนี้ สร้างความแปลกใจให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมหลายคนที่พวกเขาต่างคาดไม่ถึง ว่าจะมีโอกาสนี้


เปิดกว้างโอกาสทางการเรียนรู้ thaihealth


นายศุภนัท แซ่เตีย นิสิตปี 3 คณะมนุษยศาสตร์ภาษาอังกฤษ หลักสูตรการศึกษาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวว่า ไม่คาดคิดมาก่อนว่า สสส.จะจัดกิจกรรมที่แนะนำการพัฒนาเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ เพราะจะคุ้นเคยกับเรื่องที่เกี่ยวกับสุขภาพ การออกกำลังกาย พอได้รู้ข่าวในช่วงค่ำก่อนการจัดงานเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ตัดสินใจสมัครเข้าร่วมเพราะเป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ ทั้งนี้ ส่วนตัวมีความสนใจเรื่องภาษาอังกฤษ มีการฝึกฝนอยู่เสมอ เช่น ฝึกอ่านบทความภาษาอังกฤษต่างๆ เจอคำไหนที่ไม่เข้าใจก็จะเปิดดิกชันนารีหาความหมาย ฝึกฟังโดยเปิดวิทยุฟังข่าวภาษาอังกฤษ หรือยูทูบ รวมถึงพยายามแข่งขันในเวทีต่างๆ ทั้งประกวดเขียนบทความ พูดสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากเพื่อน ที่เก่งภาษาญี่ปุ่นมากๆ เขาก็เรียนรู้จากเวทีเหล่านี้ มองว่านี่เป็นโอกาสที่เราได้ฝึกฝน ได้เรียนรู้ความผิดพลาดอะไร และต้องไม่กลัวต้องกล้าที่จะแก้ไข เป็นแรงบันดาลใจที่จะได้เรียนภาษาอังกฤษมากขึ้น และที่สำคัญอย่างที่วิทยากรบอกว่าตอนนี้ตลาดแรงงานต้องการคนมีทักษะภาษาอังกฤษมาก ตอนที่ ได้ฟังยอมรับว่ากังวล ซึ่งผมให้ความสนใจและมองว่าภาษาอังกฤษสำคัญมาตลอด แต่ก็ไม่คิดว่าสำคัญถึงขั้นจะทำให้เงินเดือนอัพขึ้นถึง 30% ขนาดนั้น นอกจากนี้ยังได้ข้อคิดในเรื่องที่ให้เราต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดว่า อย่าไปกลัวและกล้าที่จะแก้ไข


เปิดกว้างโอกาสทางการเรียนรู้ thaihealth


นางอันธิกา ลิมปิอนันต์ชัย ผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด บริษัทจัดหางาน จ๊อบส์ดีบี (ประเทศไทย) ได้ร่วมให้ความรู้ด้วยการ "เจาะลึกสถานการณ์โลกของงานกับทักษะ ทางภาษา" ว่าตลาดแรงงานในปัจจุบันต้องการ คนมีทักษะภาษาอังกฤษ สิ่งที่นายจ้างคาดหวัง จากนักศึกษาจบใหม่ต้องมีทักษะด้านการสื่อสาร ทักษะภาษา ถึง 62% ติดอันดับ Top 3 และยังมีโอกาสได้งานที่ดี กระทั่งเงินเดือนที่สูงกว่า 30% ในตำแหน่งเดียวกัน


นายพลกฤต จุฬานุตรกุลนักศึกษาปี 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าการได้ร่วมกิจกรรมครั้งนี้ได้ประโยชน์มาก นอกจากความสนุกในการบอกเล่าเทคนิคการพัฒนาตนเองในเรื่องภาษาอังกฤษแล้ว ยังได้เรียนรู้กระบวนการคิด (Mindset) ที่ผิดของคนไทยเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ คือ กลัวการจับผิด พูดอะไรผิดไปเป็นเรื่อง น่าอาย และกลัวผิด อย่างไม่กล้าพูดกับฝรั่งเพราะกลัวพูดผิด หรือไม่เข้าใจก็ ไม่กล้าถาม เพราะฉะนั้น ต้องปรับความคิด และทัศนคติใหม่ ต้องกล้าที่จะเรียนรู้


นายพลกฤต ย้ำว่า ภาษาอังกฤษ เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวกับชีวิตประจำวันของเราอย่างมากในเวลานี้ ทุกคนไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ คนทำงานก็ต้องใช้ ซึ่งการเรียนรู้และพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษจะยิ่งเกิดประโยชน์เพิ่มขึ้น เทคนิคของผมจะเน้นไปที่พวกคำศัพท์ จากการท่อง หรือ ดูหนัง รายการทีวี เพราะถ้าเรามีคลังคำรู้ ความหมายจะมีประโยชน์ในการนำไปใช้ โดยเฉพาะทักษะการฟังเป็นทักษะแรกที่มนุษย์ต้องเรียนรู้ ซึ่งภาษาอังกฤษก็ต้องเน้นฟัง แต่ของไทยจะเน้นไปที่การเขียนมากกว่า


จากการพัฒนาเพื่อจัดกิจกรรมให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกของ สสส.ในครั้งนี้ ทำให้มองเห็นว่า สถานการณ์ และ ความต้องการของสังคมเป็นหัวใจสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ผู้แสวงหาโอกาสเพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่ตัวเองจำเป็นต้องเรียนรู้ และตามติดสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงนั้นอย่างใกล้ชิด มิฉะนั้นแล้ว การฉกฉวยโอกาสเพื่อให้ได้มาก็จะไม่เกิดประโยชน์อะไรแก่ตัวเองได้เหมือนกัน

Shares:
QR Code :
QR Code