เปลี่ยน พ.ศ.ใหม่เปลี่ยนใจเลิกเมา
ที่มา : สยามรัฐ
ภาพประกอบจาก สสส.
มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ร่วมกับเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรมรณรงค์ปีใหม่ภายใต้แนวคิด"เปลี่ยน พ.ศ.ใหม่เปลี่ยนใจเลิกเมา…นิวนอมอลยกกำลังสอง" โดยในงานกำหนดผู้เข้าร่วมงาน ไม่เกิน 50 คน ตรวจคัดกรอง วัดอุณหภูมิ สวมหน้ากากอนามัยเว้นระยะห่าง ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ที่โรงแรมเอบีน่าเฮ้าส์ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) กล่าวว่า สสส.และภาคีเครือข่ายฯพยายามรณรงค์ชวนคนลด ละ เลิกเหล้าในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ช่วงปีใหม่นี้ และยังคงเน้นย้ำให้ประชาชน ยกระดับการใช้ชีวิตแบบนิวนอร์มอลที่เข้มข้นขึ้นท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่ทุกฝ่ายกำลังร่วมมือกันอีกครั้ง เพื่อให้ผ่านวิกฤติการณ์ครั้งนี้ไปได้เช่นที่ผ่านมา
ดร.สุปรีดา กล่าวว่า จากที่ทราบถึงประสบการณ์ของแกนนำที่เข้าร่วมโครงการ "family club" หรือกลุ่มชมรมครอบครัวสุขใจ เป็นกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน จัดตั้งกลไกคณะทำงานสำรวจและชี้แจงข้อมูล คัดกรองประเมินปัญหาสุรา ค้นหาจูงใจผู้สมัครใจลดละเลิกเหล้า ดำเนินกิจกรรมกลุ่ม ติดตามบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดสุรา โดยพัฒนานำร่อง 20 แห่งในเขตภาคเหนือภาคอีสาน และภาคกลาง สำหรับ "family club" ถูกออกแบบให้ชุมชนสามารถคัดกรอง และช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายให้ลด ละเลิกเหล้า ผู้เข้าร่วมโครงการได้ถูกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำร้ายในระดับที่รุนแรง
การมีตัวช่วยจึงสำคัญมาก ทั้งคนใครอบครัว คนรอบข้าง คนในชุมชน หรือแม้กระทั่งจากคนภายนอกอย่างมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลที่เข้ามาหนุนเสริม สร้างพลังใจ เคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ทำให้เขาเห็นคุณค่าในตัวเองจึงเป็นหัวใจสำคัญมากและสิ่งสำคัญตามมาคือ การรวมกลุ่มกันของคนที่ผ่านพ้นเพื่อไปช่วยเหลือคนอื่นแบบเพื่อนช่วยเพื่อน ยิ่งนำไปสู่ความยั่งยืน และยังเห็นการทำงานในมิติอื่นด้วยอาทิ ความมั่นคงทางอาหาร ปัญหาอบายมุขในชุมชน การทำพื้นที่สร้างสรรค์ในชุมชน การยุติความรุนแรงในครอบครัว ฯลฯ
"ข้อมูลจากศูนย์วิจัยปัญหาสุราระบุว่าในปี 2560 ตัวเลขคนดื่มเหล้าอยู่ที่ประมาณ 16 ล้านคน และคนติดเหล้าหรือมีพฤติกรรมการดื่มแบบอันตรายอยู่ที่ 2.75 ล้านคน นับเป็นตัวเลขที่น่าห่วง ดังนั้นความพยายามในการลุกขึ้นมาสร้างกลไกระดับชุมชนเพื่อลด ละเลิกเหล้า ในแบบของกลไก family club จึงเป็นอีกโมเดลหนึ่งที่น่าสนใจ เพื่อนำไปสู่การขยายผลต่อไป อย่างไรก็ตามด้วยสถานการณ์โควิดที่กำลังระบาดอีกครั้งในขณะนี้ สิ่งที่ยังจำเป็นอย่างยิ่งในการป้องกันและแก้ไขปัญหา คือการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า การเว้นระยะห่าง การล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ และควรงดการปาร์ตี้สังสรรค์ทุกรูปแบบ งดการสูบบุหรี่หรือดื่มสุรา ซึ่งมีผลทำให้ร่างการอ่อนแอภูมิต้านทานลดลง และอย่าลืม สแกนไทยชนะ ทุกครั้งในการเดินทางเข้าออกสถานที่ต่างๆ" ดร.สุปรีดา กล่าว
นายนรินทร์ ตึกโพธิ์ อายุ 45 ปีอดีตนักมวยที่ชอบดื่ม ผันตัวเองมาเป็นแกนนำคนละเลิกเหล้าชุมชนวัดสวัสดิ์วารีสีมาราม กล่าวว่า เริ่มดื่มเหล้าตั้งแต่อายุ 12 ปี เดินสายชกมวยทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้เงินมาจากการชกมวยก็ตั้งวงดื่มกับเพื่อน จนร่างกายแย่ต้องออกจากวงการมวย จนต้องหันมาทำงานก่อสร้าง ก็ยิ่งดื่มหนักขึ้น สุขภาพแย่ลง ทำงานช้าลง มีโรคประจำตัว และสังคมรอบข้างเอือมระอา กระทั่งอยากเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ เลิกดื่มเพื่อลูกเมีย จึงได้พยายามลดละเลิกจนสำเร็จเปลี่ยนตัวเองมาเป็นแกนนำชวนคนเลิกเหล้า และจากที่ได้เข้าโครงการ Family Club ช่วยให้ตระหนัก และเตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลา แม้ตอนนี้อาจจะดื่มอยู่บ้างแต่ก็น้อยลงมาก และตั้งใจว่าปีใหม่นี้จะเลิกให้ได้ พ.ศ.ใหม่นี้อยากฝากถึงคนที่ดื่มอยู่ ให้เริ่มลด ละ เลิกเหล้า หันมาทำอะไรที่มีประโยชน์ เช่น ทำอาหารทานในครอบครัว ปลูกพืชผักสวนครัว อ่านหนังสือ เป็นต้น เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงจริงๆ สิ่งดีๆ จะเริ่มเข้ามา
นายสีสัน แสงแป้น อายุ 56 ปีแกนนำคนลดละเลิกเหล้า ชุมชนสวนหลวง 1 กล่าวว่า สมัยก่อนตนดื่มหนักมาก วันละ 4-5 ขวด เที่ยงคืนตีหนึ่งตีสองทุกวัน กลับบ้านไม่เคยเห็นหน้าลูกเมีย มักมีเรื่องทะเลาะวิวาท ชกต่อยในวงเหล้าเป็นประจำ ถูกจับนอนห้องขังแทบทุกเดือน ยังดีที่ช่วงเข้าพรรษาได้งดดื่ม 3 เดือน พอออกพรรษาก็กลับมาดื่มหนักเหมือนเดิม ชีวิตอยู่กับความสูญเสียจากการดื่มมากมาย ทั้งเรื่องสุขภาพครอบครัว ชุมชนคนรอบข้าง จุดเปลี่ยนที่ทำให้อยากเลิกดื่มเพราะเข้าร่วมทำกิจกรรมครอบครัวสุขใจ และกิจกรรมแชร์ประสบการณ์ร่วมกับมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ทำให้รู้พิษภัยผลกระทบ ทำให้เราอยากเป็นคนใหม่เพื่อลูกเพื่อเมีย จนตอนนี้หันมาเป็นแกนนำลดละเลิกเหล้าทำประโยชน์ให้สังคม เราก็ภูมิใจครอบครัวก็สบายใจปัญหาต่างๆ ที่เคยเกิดก็ลดลง ความสุขที่เราแทบจะหาไม่เจอเลยก็ค่อยกลับมา ที่ผ่านมาผมเสียเวลาไปกับเหล้ามากเกินไปแล้ว
ขณะที่ นายอุไรกุลชัยอายุ 43 ปี แกนนำคนเลิกเหล้า จากสมาคมส่งเสริมสิทธิชุมชนเพื่อการพัฒนา (ไทยเกรียง) กล่าวว่า สมัยก่อนดื่มเหล้าหนัก จุดเปลี่ยนที่ทำให้เลิกเหล้าได้ เนื่องจากปัญหาด้านเศรษฐกิจ รายได้น้อยลง มีหนี้สินเพิ่มขึ้นอีกทั้งได้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ กับทางสมาคมฯ และมูลนิธิฯ เกิดแรงบันดาลใจและมีกำลังใจที่จะเลิก ล่าสุดมีโอกาสได้เข้า ร่วมกิจกรรมกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อนมีกลุ่มเพื่อนๆ ที่ผ่านพ้น เลิกเหล้าแล้วคอยมาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ ให้คำปรึกษาช่วยเหลือในหลายๆ เรื่อง มีโอกาสได้ถ่ายทอดประสบการณ์ของเราและได้รับคำแนะนำจากที่ดีๆ จนรู้แล้วว่าเราไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขของมึนเมาอีก และปีใหม่นี้ตั้งใจที่จะเลิกเพื่อลูกเพื่อครอบครัวให้สำเร็จ อยากเชิญชวนทุกคนให้ห่างไกลเหล้าบุหรี่ ปีใหม่ขอให้เปลี่ยนเป็นคนใหม่กันเถอะ ทั้งเหล้าบุหรี่มันเป็นความสุขชั่วคราว มีแต่จะทำลายเราและครอบครัว