เปลี่ยนแว้นเป็นว้าว ครั้งที่ 1

ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข


ภาพประกอบจาก สสส.


เปลี่ยนแว้นเป็นว้าว ครั้งที่ 1  thaihealth


เครือข่ายเยาวชน จับมือภาครัฐ สสส. จัดกิจกรรมวันเยาวชนแห่งชาติ ชูแนวคิด “เปลี่ยนแว้นเป็นว้าว” หลังวัยโจ๋ซิ่งบนท้องถนนก่อปัญหาสังคม พร้อมชื่นชมรัฐบาล จริงจังคาดโทษ จนท.หากละเลย พร้อมหนุนโครงการสร้างภูมิคุ้มกันเยาวชน ส่งเสริมครอบครัวมีส่วนร่วม


วันที่ 12 กันยายน 2562 ที่เดอะฮอล์บางกอก เครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต เครือข่ายปกป้องเด็กและเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยงทางสังคม  ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)  จัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในโอกาสวันเยาวชนแห่งชาติ ชูแนวคิด“เปลี่ยนแว้นเป็นว้าว”  พร้อมเสวนา “มองเด็กแว้นอย่างเข้าใจ…แก้ปัญหาอย่างไรให้ยั่งยืน”   


นายอนุกูล  ปีดแก้ว รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชนรักษาการอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า ปัญหาของเด็กวัยรุ่นในปัจจุบันมีความเสี่ยงด้านการเกิดอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะปัญหาการแข่งรถบนถนน ที่เกิดจากความคึกคะนอง และวัยรุ่นมักชอบอยู่กันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ สร้างการยอมรับในทางที่ผิด หลายครั้งสร้างความรำคาญให้กับประชาชน และสิ่งที่ส่งผลเสียมากที่สุดคือการขับรถเร็วเพื่อที่จะแข่งกัน โดยมีจำนวนไม่น้อยที่ประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บจนถึงขั้นเสียชีวิต 


“ปัจจุบันภาครัฐ ตำรวจ ฝ่ายปกครองเอาจริงเอาจังกับปัญหานี้อย่างมาก  มีการจับกุมดำเนินคดีกันอย่างกว้างขวางโดยใช้ กฎหมายคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 22/2558 และ 46/2559 เป็นเครื่องมือ แต่อย่างไรก็ตามความรับผิดชอบของพ่อแม่ ผู้ปกครองก็เป็นเรื่องสำคัญ  การยินยอมหรือปล่อยปะละเลยให้บุตรหลานกระทำการดังกล่าว ถือว่าผู้ปกครองก็มีความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือนปรับไม่เกิน 30,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจต้องเข้าสู่กระบวนการทำทัณฑ์บน จึงอยากให้พ่อแม่ผู้ปกครองเข้าใจข้อกฎหมายนี้ด้วย” นายอนุกูล กล่าว


เปลี่ยนแว้นเป็นว้าว ครั้งที่ 1  thaihealth


พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.ตชด. คณะทำงานป้องกันและปราบปรามการแข่งรถ กล่าวว่า นับเป็นความห่วงใยของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.กำชับให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญกับปัญหาเด็กแว้น ซึ่งหากมีการละเลยในการปฏิบัติหน้าที่จะต้องมีบทลงโทษ ทั้งนี้การดำเนินงานของตำรวจจะมีมาตรการก่อนและหลังเกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุคือการสืบหาข้อมูลของกลุ่มเด็กแว้น ว่ามีการแข่งขันที่ไหนเวลาใด ส่วนมาตรการหลังเกิดเหตุ ในส่วนของผู้ปกครองจะเริ่มที่การตักเตือน ภาคทัณฑ์ ดำเนินคดี หลังจากที่มีคำสั่งของ คสช.ออกมาแล้ว ทำให้ปัญหาของเด็กแว้นลดลงจากเดิมถึง 70-80% ปัจจุบันมีผู้ปกครองที่ถูกดำเนินคดีแล้ว 13 ราย และสตช.ได้กำหนดเงินรางวัล 3,000 บาทสำหรับผู้แจ้งเบาะแสเด็กแว้น รวมไปถึงบรรดาแอดมินเพจ  โดยสามารถแจ้งทางโซเชียลมีเดีย ตร.สายด่วน 1599 ,191 


ด้าน นางสุภาภรณ์ ชมชัย ผู้อำนวยการประสานกำกับติดตามผลการดำเนินงาน คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่22/2558 กล่าวว่า ผลของการดำเนินงานโดยภาพรวมตั้งแต่มีคำสั่ง หน.คสช. ฉบับนี้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถดำเนินการกับผู้ที่ยังไม่ได้มีการแข่งรถได้ เพียงมีพฤติการณ์รวมกลุ่มหรือมั่วสุมนำไปสู่การแข่งรถ ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายจราจรทางบก โดยให้อำนาจเจ้าหน้าที่เข้าระงับ ยับยั้ง เพื่อป้องกันมิให้มีการแข่งรถ เช่น ว่ากล่าวตักเตือน ปรับพฤติกรรมเข้าร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพเชิงบวกเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน และให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง หน่วยงานเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น สถานศึกษา กรมกิจการเด็กและเยาวชน กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กองทัพบก เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา รวมถึงนำรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ที่ต้องสงสัยว่าจะใช้ในการแข่งรถ มาเก็บรักษาไว้ชั่วคราวจนกว่าจะปรับพฤติกรรม ซึ่งเดิมกฎหมายปกติไม่สามารถทำได้


“เพื่อให้การทำงานแบบบูรณาการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ควรมีกฎหมายกลางในการบริหารหรือการบูรณาการการดำเนินการในเรื่องจัดระเบียบสังคม  ปัจจุบันมีการกำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำมาตรการตามคำสั่ง หน.คสช.ที่ 22/2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ไปดำเนินการแก้ไข นำถ้อยคำในคำสั่งไปบัญญัติไว้ไปเพิ่มในกฎหมายปกติที่อยู่ในความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงาน  ส่วนมาตรการการลงโทษเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยปะละเลยให้มีการแข่งรถ ผู้บังคับบัญชาสามารถลงโทษได้ทันที” นางสุภาภรณ์ กล่าว


เปลี่ยนแว้นเป็นว้าว ครั้งที่ 1  thaihealth


ขณะที่ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 20 ปี จากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน(ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก ผู้ที่เคยมีประสบการณ์ตรงในการใช้ชีวิตเด็กแว้น กล่าวว่า ช่วงม.1 ตนติดเพื่อนมาก มักซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ไปกับกลุ่มเพื่อน และชื่นชอบการแต่งรถ กระทั่งขึ้น ม.2 พ่อไว้ใจให้ขับมอเตอร์ไซค์ไปเรียนเอง ยิ่งรู้สึกท้าทาย ได้รู้จักกลุ่มเด็กแว้นกลุ่มต่างๆ มักจะนัดรวมกันมาแว้นประจำ แถวเส้นพระราม 2 มหาชัย ถนนอักษะ ตกดึกปิดถนน ไม่กลัวตำรวจ แม้จะเคยโดนจับ และเคยเกิดอุบัติเหตุนับครั้งไม่ถ้วน สุดท้ายเรียนไม่จบต้องออกกลางคัน จึงคิดได้ว่าไม่ควรทำให้พ่อแม่เสียใจอีก  ทั้งนี้ตนอยากฝากเตือนสติกลุ่มวัยรุ่นที่รักในการแข่งรถว่า ควรไปแข่งในสนามที่ถูกต้องและปลอดภัย ไม่สร้างความเดือนร้อนให้ใคร  พร้อมกับวอนภาครัฐเปิดพื้นที่รับฟังเสียงของเด็กกลุ่มนี้อย่างจริงจัง ว่าลึกๆแล้วเขาต้องการอะไร แล้วค่อยๆชักชวนมาทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและให้เขาได้เห็นคุณค่าในตัวเอง เช่นเดียวกับการดำเนินงานของบ้านกาญจนาภิเษกที่สามารถเปลี่ยนแปลงเด็กๆได้จริง” อดีตเด็กแว้น กล่าว


 

Shares:
QR Code :
QR Code