เบเกอรี่สานฝันปันโอกาส

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ


ภาพประกอบจากแฟนเพจโรงเรียนวังน้ำเย็นวิทยาคม


เบเกอรี่สานฝันปันโอกาส thaihealth


ทุกวันหลังอาหารมื้อกลางวัน น้องๆ นักเรียนโรงเรียนวังน้ำเย็นวิทยาคม จ.สระแก้ว จะต้องรีบไปที่อาคารคหกรรมหลังเก่าเพื่อไปซื้อ เบเกอรี่จนกลายเป็นภาพชินตากันไปแล้ว


สาเหตุที่ต้องรีบ ก็เพราะว่า ร้าน เบเกอรี่เฉพาะกิจนี้เปิดขายแค่ช่วงพักเที่ยง เท่านั้น แถมยังหมดแล้วหมดเลย


หลังได้มาคนละชิ้นสองชิ้นก็จะมาจับกลุ่มนั่งกินใต้ร่มไม้ด้วยความเอร็ดอร่อยก่อนที่แยกย้ายเข้าชั้นเรียนในภาคบ่าย ต่อไป


เค้กหน้านิ่ม เค้กกล้วหอม ท้อฟฟีเค้ก เป็นเบเกอรี่สามอย่างยอดฮิตที่ทุกคนชอบและขายหมดเร็วภายในไม่ช้า


ส่วนผู้ทำและผู้ขายเบเกอรี่ไม่ได้เป็นใครที่ไหน คือ เพื่อนๆ นักเรียนด้วยกันที่ช่วยกันทำขึ้นโดยการดูแลของคณะครู เพื่อเรียนรู้การงานอาชีพและสร้างรายได้ ขณะเดียวกันเพื่อนนักเรียนด้วยกันยังได้รับประทานเบเกอรี่ในราคาถูกและอร่อย


เบเกอรี่ที่น้องๆ โรงเรียนวังน้ำเย็นวิทยาคม ช่วยกันทำนี้มาจาก โครงการ"สุขจากขนมอบ" ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการ สร้างเสริมโอกาส (สสส.) ในชุดโครงการส่งเสริมการเรียนรู้สุขภาวะสำหรับเด็กด้อยโอกาส


เบเกอรี่สานฝันปันโอกาส thaihealth


สุดใจ รุ่งเรือง ครูผู้ดูแล กล่าวถึงจุดประสงค์ของโครงการสุขจากขนมอบว่า เพื่อช่วยเด็กที่มีฐานะค่อนข้างยากจน บางคนอยู่กับปู่ยาตายาย พ่อแม่ไปทำงานที่อื่น หรือพ่อแม่แยกทางกัน ได้เข้ามาทำงานทำกิจกรรมเป็นการเปิดโอกาสให้เขาได้มีความกล้าปฏิสัมพันธ์กับสังคม เพราะคิดว่าตัวเองมีปม ดังนั้นโครงการจึงส่งเสริมด้วยการสร้างกิจกรรมร่วมกัน จึงเลือกทำเบเกอรี่เพื่อให้เกิดทักษะการปฏิบัติงาน การอยู่ร่วมกับคนอื่น การช่วยเหลือแบ่งปัน ความซื่อสัตย์ ช่วยให้เขามีความสุขและมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ และอย่างน้อยจะมีรายได้เสริม


ครูสุดใจ เล่าถึงกระบวนการทำ เบเกอรี่ของน้องๆ ว่า เริ่มเตรียมแป้งในช่วงเย็นก่อน เพื่อที่เช้าอีกวันจะมาช่วยกันทำเบอเกอรี่ให้เสร็จในเวลา 08.45 น. ก่อนขึ้นชั้นเรียน เป็นกิจวัตรที่เชฟสุขจากขนมอบจะต้องทำเป็นกิจวัตร


ส่วนเมนูเบอเกอรี่ที่มี ได้แก่ โดนัทจิ๋ว เค้กหน้านิ่ม เค้กหน้าครีม เค้กกล้วยหอม ท้อฟฟี่เค้ก บราวนี่หน้ากรอบ แอเคลร์ และแยมโรล แต่จะเลือกเพียง 3 อย่างต่อวัน มีการแบ่งเวรใน 5 วัน วันละ 6 คน


หลังเลิกเรียนเด็กที่เป็นเวรจะต้องมาเตรียมมาตีแป้งเบเกอรี่สำหรับใช้ในเช้าวันถัดไป วันต่อมาก็จะต้องมาโรงเรียนเช้ากว่าปกติ และได้อนุญาตให้ไม่ต้องทำกิจกรรมหน้าเสาธง เพื่อมาช่วยกันหยอดลงถ้วยพิมพ์แล้วแต่ชนิดของเบเกอรี่ ก่อนจะนำเข้าเตาอบให้เสร็จก่อนขึ้นชั้นเรียนตามปกติ พอถึงพักเที่ยงก็จะต้องรีบมาตั้งโต๊ะขายที่หน้าร้าน "จามจุรีเบเกอรี่"


เบเกอรี่สานฝันปันโอกาส thaihealth


สำหรับราคาขายนั้น จะขายเพียง ชิ้นละ 5-10 บาท ขายหมดทุกวัน มีรายได้ประมาณ 1,200-2,000 บาทต่อวัน และ ให้ค่าตอบแทนเด็กที่มาช่วยกันทำคนละ 50 บาทต่อวัน


"เราบอกเขาเสมอว่า ถึงแม้เราจะมีฐานะยากจน แต่เราอย่าขี้เกียจ อย่างน้อยมีพื้นฐานมีทักษะติดตัวไปประกอบอาชีพหากไม่ได้เรียนต่อหรือทำเป็นรายได้เสริมช่วงที่เรียนต่อก็ได้ เพราะอยู่กับเรา อย่างน้อยทุกคนต้องทำให้เป็น 5-6 อย่าง ขณะเดียวกันยังได้นำไปเข้าสู่ชั่วโมง ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ซึ่งเด็กโรงเรียนวังน้ำเย็นวิทยาคมทุกคนต้องทำเบเกอรี่เป็นอย่างน้อยคนละ 1 อย่าง ก่อนจะจบ ม.6" ครูสุดใจ กล่าว


ปาณิสรา จันทร์กล่ำ หรือ น้องพลอย หนึ่งในทีมสุขจากขนมอบ บอกว่า ครูสอนให้ทำเบเกอรี่เป็นทุกอย่าง โดยนอกจากจะได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์แล้ว ยังมีรายได้อีกด้วย เดือนละ 200 บาท ก็สะสมเก็บไว้


"การมาทำก็ไม่กระทบการเรียน เพราะเรารู้จักแบ่งเวลา สูตรการทำขนมสามารถเอาไปทำขายข้างนอกก็ได้ เพราะเพื่อนๆ บางคนอยากเปิดร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่อีกด้วย"


ขณะที่ สุรีย์พร มุ่งร่มกลาง หรือ น้องครีม บอกว่า สนใจการทำเบเกอรี่เลยมาเข้าร่วม เพราะจะได้มีความรู้ทักษะไปทำเป็นอาชีพเสริมได้ ขณะเดียวกันยังได้ฝึกระบบความคิด ระบบธุรกิจ การคำนวนต้นทุน ราคาขาย ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นหากออกไปขายจริง


หนึ่งชั่วโมงแห่งความชุลมุนที่ จามจุรีเบเกอรี่จึงถือเป็นความสุขจากขนมอบอย่างแท้จริง เพราะเต็มไปด้วยรอยยิ้มของทั้งคนทำและคนกิน

Shares:
QR Code :
QR Code