เบาหวานเรื้อรังเสี่ยงโรคหัวใจสูง

เบาหวานเรื้อรังเสี่ยงโรคหัวใจสูง thaihealth


“กรมการแพทย์” ชี้ผู้ป่วยเบาหวานเรื้อรัง เสี่ยงเกิดโรคหัวใจสูงกว่าคนปกติ แนะกินแต่พอดี ควบคุมน้ำหนักและระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ชะลอความเสื่อมของหลอดเลือดได้


นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันโรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรัง ซึ่งเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สําคัญของประเทศไทย โรคนี้เกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่ไม่สามารถใช้น้ำตาลได้ตามปกติ ทำให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงขึ้นและถูกขับออกมาทางปัสสาวะ เนื่องจากร่างกายขาดฮอร์โมนอินซูลิน เมื่อมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นระยะเวลานาน จะทำให้หลอดเลือดเสื่อมและเสียหาย โรคเบาหวานแบ่งเป็น 2 ชนิดคือ 1.ชนิดที่พึ่งอินซูลิน เป็นเบาหวานชนิดที่พบได้น้อย แต่มีความรุนแรงและอันตรายสูง พบในเด็กและวัยรุ่น อายุน้อยกว่า 25 ปี ในประเทศไทยพบน้อยกว่า 5% ของประชากร 2.ชนิดที่ไม่พึ่งอินซูลิน ในประเทศไทยพบมากกว่า 95% ซึ่งมักจะมีความรุนแรงน้อย พบได้บ่อยในผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ขึ้นไปและมีอัตราการป่วยที่เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนอายุ มักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เบาหวานชนิดที่ 2 นี้ ผู้ป่วยบางรายอาจไม่มีอาการแสดงออกของโรคเลย หรืออาจจะมีอาการแบบค่อยเป็นค่อยไป จนถึงขั้นแสดงอาการรุนแรงหรือหมดสติและเสียชีวิตได้


นพ.สุพรรณ กล่าวว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวานมักพบภาวะแทรกซ้อนตามระบบและอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวานเรื้อรังจะมีอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ และมีความรุนแรงของโรคมากกว่าคนปกติ สำหรับสัญญาณอันตรายของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ จากเบาหวานที่ต้องรีบพบแพทย์ อาจสังเกตได้จากอาการแน่นหรืออึดอัดบริเวณกลางหน้าอกข้างซ้ายหรือลิ้นปี่คล้ายอาการจุกเสียด ปวดร้าวที่ท้องแขนด้านใน หน้ามืด วิงเวียน เหงื่อออก ตัวเย็น ใจสั่นจะเป็นลมหรือหมดสติ ส่วนอาการเจ็บหน้าอกนั้นมักไม่ชัดเจน เพราะผู้ป่วยมักมีปัญหาปลายประสาทรับความรู้สึกเสื่อมสภาพ การวินิจฉัยโรคจึงทำได้ยากกว่าปกติ


“ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ (70-110) หรือใกล้เคียงมากที่สุด ด้วยการปฎิบัติตน คือ รับประทานอาหารให้พอดี เว้นระยะห่างของอาหารแต่ละมื้อให้นาน งดเว้นอาหารประเภทหวานๆ หลีกเลี่ยงผลไม้รสหวาน อาหารประเภทแป้งและไขมันรวมทั้งไขมันจากกะทิ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 15-30 นาทีต่อวัน ควรพกลูกอมหรือน้ำตาลและบัตรที่แสดงว่าเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานติดตัวไว้เสมอ งดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปฎิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด จะช่วยชะลอความเสื่อมของหลอดเลือดหัวใจ ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติและมีสุขภาพที่แข็งแรง” นพ.สุพรรณ กล่าว


 


ที่มา : เว็บไซต์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์


ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก  www.kondoodee.com

Shares:
QR Code :
QR Code