‘เทศกาลกินเจ’ ทำกุศล ‘เพื่อสุขภาพ’

นับถอยหลังทั้งกาย-ใจ

 

‘เทศกาลกินเจ’ ทำกุศล ‘เพื่อสุขภาพ’เข้าสู่ช่วงนับถอยหลัง-เตรียมตัวกันแล้ว สำหรับ เทศกาล กินเจที่จะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปลายสัปดาห์นี้ โดยวันที่ 17 ต.ค. เป็นวันล้างท้อง และระหว่างวันที่ 18-26 ต.ค. เป็นช่วงวัน กินเจซึ่งในเชิงเศรษฐกิจก็มีการวิเคราะห์ว่าเทศกาลกินเจในเมืองไทยปีนี้จะมีเม็ดเงินเกี่ยวกับธุรกิจอาหารเจสะพัดราว 2.7 หมื่น ล้านบาท

   

ส่วนผู้ ถือศีล-กินเจก็ย่อมหมายมั่นที่เรื่อง บุญกุศล

   

ขณะเดียวกัน การกินเจก็เกี่ยวข้องกับ สุขภาพด้วย!!

   

ควรเลือกบริโภคอาหารที่ปรุงสะอาดถูกสุขอนามัย ถูกหลักโภชนาการ เพื่อทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนและ มีคุณค่าเพียงพอกับความต้องการของร่างกายเป็นคำแนะนำของ นพ.โสภณ เมฆธน รองอธิบดีกรมอนามัย และต่อเนื่องด้วย หลักปฏิบัติ ของผู้งดเนื้อสัตว์ใน 3 กลุ่ม คือ

   

กลุ่มที่ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ทุกชนิด ไข่ ผลิตภัณฑ์จากนม เนย รวมถึงหัวหอม กระเทียม กุยช่าย หลักเกียว (คล้ายกระเทียม แต่เล็กกว่า) ใบยาสูบ ในกลุ่มนี้จำเป็นต้องบริโภคถั่วเมล็ดแห้งต่าง ๆ เช่น ถั่วเหลือง มีสารที่ให้กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย ทดแทนสารอาหารจากเนื้อสัตว์ที่ไม่บริโภค การบริโภคถั่วเมล็ดแห้ง ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วดำ ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารจำพวกโปรตีน และธาตุ เหล็ก ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

   

กลุ่มที่ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ ไข่ หัวหอม กระเทียม หัวไชเท้า กุยช่าย พริกแดง แต่ดื่มนมและบริโภคผลิตภัณฑ์จากนม กลุ่มนี้ จำเป็นต้องได้รับสารอาหารทดแทนด้วยการบริโภคถั่วเมล็ดแห้งต่าง ๆ ควบคู่กับ ข้าวกล้อง ซึ่งให้โปรตีนสูงกว่าข้าวขาว อีกทั้งยังช่วยให้ได้รับสารอาหารประเภทวิตามินบีต่าง ๆ และเกลือแร่ด้วย

   

กลุ่มที่ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ แต่บริโภคไข่และผลิตภัณฑ์จากนม เนย กลุ่มนี้มีข้อได้เปรียบตรงที่ร่างกายยังได้รับสารอาหารประเภทโปรตีนจากไข่ และแคลเซียมจากนม ซึ่งกลุ่มนี้จะเหมาะสำหรับเด็กที่ต้องการกินเจด้วย เพราะร่างกายจะยังคงได้รับสารอาหารต่างๆ ที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตทั้งด้านร่างกายและสมอง

   

ผู้บริโภคควรต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในการเลือก ซื้อและบริโภคอาหารเจ ซึ่งเมื่อถึงเทศกาลกินเจจะมีการปรุงอาหาร ออกมาจำหน่ายหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบสำเร็จรูป อาหารคาว- หวาน อาหารถุง อาหารกระป๋อง ก่อนเลือกซื้อไปบริโภคก็ควร ต้องคำนึงถึงคุณค่า ราคา ความสะอาดปลอดภัย ตลอดจนภาชนะ บรรจุภัณฑ์และวันหมดอายุ เพื่ออนามัยที่ดี”…รองอธิบดีกรมอนามัยระบุ

   

ทางด้าน นพ.ณรงค์ สายวงศ์ ผู้อำนวยการกองโภชนาการ กรมอนามัย ก็ให้คำแนะนำว่า ในช่วงถือศีลกินเจ ช่วงเทศกาลการปฏิบัติตนทั้งกายและใจ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีอีกโอกาสหนึ่งที่จะได้ยึดถือเพื่อที่จะทำความดีกันนั้น สำหรับการกินเจ ไม่บริโภคเนื้อสัตว์และผักบางชนิด ก็สามารถทำให้ผู้ปฏิบัติรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ รู้สึกว่าได้ละเว้นการทำบาป จึงถือได้ว่า อาหารเจเป็นทั้งอาหารกายและอาหารใจ

   

การไม่บริโภคเนื้อสัตว์นั้น ในแง่ของสุขภาพก็จะเป็นผลดีต่อสุขภาพ เช่นทำให้ระบบขับถ่ายของร่างกายดี การเสี่ยงต่อโรคมะเร็งก็จะลดน้อยลง ขณะเดียวกัน ลึกๆ แล้วการ กินเจยังเป็นการ สร้างวัฒนธรรมที่อ่อนโยนต่อโลกช่วยกล่อมเกลาจิตใจให้เข้าใกล้วิถีแห่งพระโพธิสัตว์ คือไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต

   

อย่างไรก็ดี เพื่อมิให้มีปัญหาทางสุขภาพกาย หลักในการกินเจก็ควรเน้นที่สีของอาหาร ไม่ว่าจะเป็นถั่ว ผัก ผลไม้ ควรบริโภคอาหารให้ครบทั้งสีขาว เขียว เหลือง ดำ และแดง เพราะไม่มีอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งที่จะให้สารอาหารครบถ้วน และข้อควรระวังคือ หลีกเลี่ยงอาหารพวกแป้งและอาหารที่ใช้น้ำมันมากๆ รวมถึง ผักต่างๆ ก่อนจะใช้ปรุงอาหาร ก็ต้องล้างให้สะอาด เพื่อป้องกันสารพิษตกค้าง

   

หากกินเจอย่างถูกหลักโภชนาการ นอกจากจะทำให้การกินเจส่งผลดีทางด้านจิตใจแล้ว ยังทำให้ร่างกายของผู้ที่กินเจไม่มีปัญหา เช่น น้ำหนักเกิน ก็สามารถช่วยลดน้ำหนักส่วนเกินได้ รวมทั้งยังช่วยให้อวัยวะที่ใช้ในการขับถ่ายไม่อุดตัน ช่วยให้ไตทำงานน้อยลง เป็นต้น และที่สำคัญอีกประการหนึ่ง…แม้จะกินเจ ก็คือการหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อเผาผลาญพลังงานส่วนเกินที่ร่างกายได้รับ และส่งผลให้มีสุขภาพที่ดีตามมา

   

การหิวโหยอ่อนแรงเพราะกินเจ เพราะเคยชินกับการกินเนื้อสัตว์ ให้แก้อาการด้วยการกินข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ถั่วเมล็ดแห้ง เพื่อชดเชย และการกินผักมากเกินไปก็อาจเป็นโทษต่อร่างกายได้ เพราะผักบางชนิดมีสารที่ขัดขวางการดูดซึมสารอาหาร  ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย-อ่อนแรงได้ ดังนั้น ทางที่ดีควรเดินสายกลาง อย่าสุดโต่งมากเกินไป อีกทั้งช่วงกินเจนั้น ก็คงไม่ใช่แค่มุ่งกินผักอย่างเดียว แต่ควรทำจิตใจให้ผ่องแผ้วด้วย ไม่คิดร้าย ไม่อิจฉาริษยาคนอื่น ถือศีล ทำสิ่งดีๆ จึงจะบรรลุวัตถุประสงค์ของประเพณีอันมีคุณค่านี้”…ผู้อำนวยการกองโภชนาการระบุ

   

เข้าสู่ช่วงเตรียม ปฏิบัติตัวใน เทศกาลกินเจแล้ว

   

และจะดีแน่ๆ ถ้าเตรียม ปฏิบัติใจในเทศกาลนี้ด้วย

   

ได้สุขภาพ-ได้บุญ…ได้ความสุขทั้งกาย-ใจ…ครบเครื่อง !!

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

 

 

Update 12-10-52

อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์

Shares:
QR Code :
QR Code