เตือน “โจ๋” ติดโรค มีเซ็กส์วันวาเลนไทน์ไม่ป้องกันอันตราย

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา จัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ ตลอดจนป้องกันการตั้งครรภ์ที่ยังไม่พร้อม ในช่วงวันวาเลนไทน์ โดยใช้คำขวัญ “รักจริงต้องใส่ใจ รักปลอดภัยต้องป้องกัน” เน้นกลุ่มเยาวชนให้มีความรู้ความเข้าใจในการป้องกันโรคและการตั้งครรภ์โดยที่ยังไม่พร้อม

วันที่ 14 ก.พ. ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีพะเยา ทีมงานป้องกันโรคติดเชื้อจากเพศสัมพันธ์ นำโดย นางระเบียบ กอวัฒนสกุล และ น.ส.พัชราภรณ์ ทะเกียง เจ้าหน้าที่คลินิกทานตะวันโรงพยาบาลพะเยา ได้ลงให้ความรู้แก่นักศึกษา เพื่อเรียนรู้ต่อการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในวันแห่งความรัก จากข้อมูลการเฝ้าระวังทางพฤติกรรมของสำนักระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าจังหวัดพะเยามีแนวโน้มประชาชนป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 15–24 ปี  มีอัตราป่วยสูงสุด คิดเป็น 36.43 ต่อประชากรแสนคน ทำให้มีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีสูงกว่าคนปกติ 3–9 เท่า ซึงเป็นผลมาจากการมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่ปลอดภัยและพบว่าอัตราการใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ในรอบปีที่ผ่านมายังต่ำอยู่เพียงร้อยละ 37.62 เท่านั้น  

และจากข้อมูลปี 2555 พบว่า สตรีวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี ในจังหวัดพะเยา คลอดบุตร จำนวน 442 คน คิดเป็นร้อยละ 16.32 ของสตรีที่คลอดบุตรทั้งหมดในจังหวัด โดยร้อยละ 80 เป็นการตั้งครรภ์ที่ยังไม่พร้อม ทำให้สตรีวัยรุ่นตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์หรือทำแท้ง จำนวน 23 ราย ซึ่งการทำแท้งเป็นวิธีการที่ไม่ปลอดภัย เป็นการเสี่ยงอันตราย และอาจถึงเสียชีวิตได้ และยังพบอีกว่ามีวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์ติดเชื้อเอชไอวีเพิ่มขึ้นด้วย    

ในวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ 2556 นี้ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศจัดกิจกรรมรณรงค์ “รักจริงต้องใส่ใจ รักปลอดภัยต้องป้องกัน” เนื่องในวันวาเลนไทน์ ซึ่งเป็นวันที่หนุ่มสาวจะแสดงความรัก ความปรารถนาดีต่อกัน โดยจังหวัดพะเยาจัดกิจกรรมเผยแพร่ข้อมูลให้ประชาชนโดยเฉพาะเยาวชนตระหนักถึงการป้องกันตนเองจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เอดส์ ซิฟิลิส หนองใน   

น.ส.พัชราภรณ์ ทะเกียง เจ้าหน้าที่คลินิกทานตะวันโรงพยาบาลพะเยา เปิดเผยว่า ปัจจุบันพบวัยรุ่นติดเชื้อหนองในเพิ่มขึ้น โดยเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัย  เป็นสัญญาณเตือนว่าเอดส์กำลังจะกลับมาระบาดอีกรอบ ซึ่งนอกจากนี้ยังพบว่าวันรุ่นชายปัจจุบันนิยมฝังมุกที่อวัยวะเพศ โดยอ้างว่าทำมาจากในเรือนจำ และนำมาทำให้แก่เพื่อนๆ ส่งผลให้ไม่สามารถสวมถุงยางอนามัยได้ ทำให้การติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนอกจากฝังมุกแล้ว ยังนิยมนำน้ำมันมะกอกมาฉีดให้อวัยวะเพศใหญ่ขึ้น ซึ่งจะมีความสุขในระยะแรกๆ เท่านั้น พอนานเข้าอวัยวะเพศจะเน่าวิธีรักษาคือตัดทิ้งให้เล็กลง ดังนั้นในช่วงวันแห่งความรักนี้ ขอเตือนเยาวชนให้รักนวลสงวนตัว หรือยับยั้งไม่ได้ให้สวมถุงยางป้องกัน เพื่อป้องกันโรคติดต่อ และท้องไม่พร้อม ในทางป้องกันที่ดีที่สดคือไม่มีเพศสัมพันธ์จะป้องกันได้ดีที่สุด

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

Shares:
QR Code :
QR Code