ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์

กรมการค้าภายในเตือน “โรงพยาบาลเอกชน” รักษาตามจริง หากพบราคาที่ไม่เหมาะสมจะใช้อำนาจตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการชี้แจงโรงพยาบาลเอกชนกว่า 300 แห่งจากที่เชิญไปทั้งหมด 353 ราย ถึงแนวทางความโปร่งใสและเป็นธรรมด้านราคายา เวชภัณฑ์ บริการรักษาพยาบาล บริการทางการแพทย์ และบริการอื่นของสถานพยาบาล ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ฉบับที่ 52 พ.ศ.2562 ว่า เป็นการชี้แจงให้โรงพยาบาลเอกชนมีความเข้าใจตรงกัน ในข้อกำหนดที่ต้องส่งราคาซื้อ และขายยา เวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ มายังกรม โดยราคาที่แจ้งต้องเป็นต้นทุนที่ไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าห้อง ค่าเภสัชกร ค่าจ้างพนักงาน ค่าสร้างตึกใหม่ เป็นต้น โดยในส่วนยาจะต้องแจ้งราคาซื้อและขายยาในกลุ่มบัญชีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติมีสิทธิ์ทุกที่ (UCEP) 3,892 รายการ และยาที่จำหน่ายสูงสุด 100 รายการแรก ภายในวันที่ 12 ก.ค.2562 ส่วนเวชภัณฑ์ 868 รายการ และค่าบริการทางการแพทย์ 5,286 รายการ ให้แจ้งภายในวันที่ 22 ก.ค.62

หลังจากกรมได้รับข้อมูลแล้ว ในส่วนของยาจะนำมาตรวจสอบกับบัญชีราคายาของกรมบัญชีกลาง และข้อมูลที่ได้รับ ทั้งจากบริษัทผู้ผลิตยาและผู้นำเข้า เพื่อดูว่าเป็นราคาที่สอดคล้องกับต้นทุนหรือไม่ ถ้าสอดคล้องกับต้นทุน และเป็นราคาเฉลี่ยปกติก็จะไม่ดำเนินการใดๆ จากนั้นจะนำราคาเผยแพร่บนเว็บไซต์ www.dit.go.th และจัดทำ QR Code ยาแต่ละรายการจัดส่งให้โรงพยาบาลเอกชนไปแสดงไว้เพื่อให้ผู้ป่วยตรวจสอบได้

“แต่ถ้ามีราคาสูงเกินจริง จะเชิญโรงพยาบาลเอกชนรายนั้น มาชี้แจงก่อน ถ้ายังไม่ร่วมมือขายยาให้สอดคล้องกับต้นทุน ก็ต้องใช้อำนาจตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 เช่น กำหนดอัตรากำไรที่เหมาะสม แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ไปถึงขั้นนั้น เพราะกรมไม่ต้องการใช้ และหลีกเลี่ยงการใช้มาตรการนี้”

นายวิชัย กล่าวต่อว่า ได้ย้ำกับโรงพยาบาลเอกชนต้องให้การรักษาเท่าที่จำเป็น ห้ามรักษาเกินจริง และต้องแจ้งราย ละเอียดให้ผู้ป่วยรับทราบว่าเป็นโรคอะไร ค่ารักษาเท่าไร เหตุการณ์แบบท้องเสียมีค่าใช้จ่าย 30,000 บาทต้องไม่เกิดขึ้นอีก และในใบสั่งยาต้องระบุรายละเอียดชื่อ ราคา ให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้ป่วยมีทางเลือกซื้อยาภายนอกได้