เตือนเด็กเล็กก็เป็นต้อหินได้ มีปานดำ-แดงที่หน้า กลุ่มเสี่ยง

ที่มา :  ไทยโพสต์


เตือนเด็กเล็กก็เป็นต้อหินได้ มีปานดำ-แดงที่หน้า กลุ่มเสี่ยง  thaihealth


แฟ้มภาพ


เด็กที่มีปานแดงปานดำบนใบหน้า หากมีขนาดใหญ่และมีพื้นที่พาดผ่านดวงตา จัดว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยง เนื่องจากเด็กที่มีปานแดง เส้นเลือดบนใบหน้าเกิดความผิดปกติ มีเนื้องอกมาอุดตันทำให้น้ำหล่อเลี้ยงในดวงตาไม่สามารถระบายออกได้ ความดันในลูกตาจึงสูงขึ้น


รพ.เมตตาฯ (วัดไร่ขิง) เผยเด็กเล็กอาจมีความเสี่ยงในการเกิดต้อหิน โดยอาจพบตั้งแต่แรกเกิดหรือมีภาวะแทรกซ้อน มีปานแดง ปานดำขนาดใหญ่บนใบหน้า และพาดผ่านดวงตา อย่านิ่งนอนใจควรรีบพบจักษุแพทย์


โรคต้อหินเป็นโรคเกี่ยวกับดวงตา มักพบในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ แต่ปัจจุบันพบว่าแม้แต่เด็กเล็กๆ ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นต้อหินได้เช่นกัน ซึ่งความร้ายแรงของโรคนี้คือ หากปล่อยไว้จนอาการลุกลามกระทั่งมองไม่เห็นแล้วจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้นพ่อแม่ผู้ปกครองควรหมั่นสังเกตความผิดปกติต่างๆ ที่อาจเกิดกับดวงตาของลูกหลาน และพาไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างทันท่วงที


แพทย์หญิงสายจินต์ อิสีประดิฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวว่า ต้อหิน เป็นโรคที่สัมพันธ์กับความดันในลูกตาสูงขึ้น จนประสาทตาซึ่งเป็นตัวนำการมองเห็นไปสู่สมองถูกทำลาย ทำให้สูญเสียลานสายตา ในระยะเริ่มต้นจะไม่มีอาการผิดปกติใดๆ แต่เมื่อโรคลุกลามมากขึ้น การมองเห็นจะเริ่มเปลี่ยนไปทีละน้อย บางคนอาจไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง คือ การมองจะยังคงเห็นวัตถุข้างหน้าได้ชัดเจนดี แต่จะเริ่มมองวัตถุรอบๆ ไม่เห็น ลานสายตาแคบลงเหมือนมองผ่านกล้องส่องทางไกลอยู่ตลอดเวลา และจะแคบลงเรื่อยๆ จนสูญเสียการมองเห็นในที่สุด


ต้อหินที่พบในเด็กสามารถพบได้ตั้งแต่แรกเกิด เนื่องจากพัฒนาการที่ผิดปกติตั้งแต่ในครรภ์ สังเกตความผิดปกติได้จากทารกมีอาการน้ำตาไหล ไม่สู้แสง ตาดำโต เป็นฝ้าขาว หรืออาจมีตาดำเล็กกว่าปกติ และต้อหินที่เกิดจากภาวะแทรกซ้อนของโรคเกี่ยวกับดวงตา เช่น การใช้ยาหยอดตาเป็นเวลานาน เด็กที่เป็นภูมิแพ้ มีอาการตาแดงมาก คันตา ผู้ปกครองซื้อยาหยอดตาใช้เองโดยไม่ปรึกษาจักษุแพทย์ และใช้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานอาจทำให้ความดันตาสูงขึ้น ขั้วประสาทตาถูกทำลายจนสูญเสียการมองเห็นในที่สุด


นอกจากนี้ยังพบว่าเด็กที่มีปานแดงปานดำบนใบหน้า หากมีขนาดใหญ่และมีพื้นที่พาดผ่านดวงตา จัดว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยง เนื่องจากเด็กที่มีปานแดง เส้นเลือดบนใบหน้าเกิดความผิดปกติ มีเนื้องอกมาอุดตันทำให้น้ำหล่อเลี้ยงในดวงตาไม่สามารถระบายออกได้ ความดันในลูกตาจึงสูงขึ้น ส่วนปานดำเกิดจากมีเม็ดสีดำเข้ามาอยู่ที่ผิวหนัง อุดตันท่อระบายน้ำในตา จึงทำให้ความดันในลูกตาสูงขึ้น ทั้งนี้เด็กที่เป็นปานดำพบว่าอาจเป็นต้อหินเมื่อเป็นผู้ใหญ่ แต่เด็กที่เป็นปานแดงอาจเป็นต้อหินได้ตั้งแต่ยังเล็ก อย่างไรก็ตามหากพบว่าเด็กมีความผิดปกติเกี่ยวกับดวงตา เช่น ไม่มอง ไม่จับวัตถุสิ่งของ เหมือนมองไม่เห็น ควรพาไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติ สำหรับวิธีการรักษาโรคต้อหินในเด็กอาจรักษาด้วยยา หรือผ่าตัด โดยจักษุแพทย์จะพิจารณาตามความเหมาะสม

Shares:
QR Code :
QR Code