เตือนภัย “เน็ต” ปลุกวัยรุ่นลองเซ็กซ์
หวั่น!! เป็นกลุ่มเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก
โพลล์ชี้ สื่อลามกและอินเทอร์เน็ตเป็นตัวเร่งให้วัยรุ่นให้มีเซ็กซ์เร็วขึ้น หมอชี้ เด็กกลุ่มนี้อาจเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก
นายสุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานสวนดุสิตโพลล์ เปิดเผยว่า แต่ก่อนวัยรุ่นจะมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกอยู่ในช่วงอายุ 17 – 18 ปี แต่จากการสำรวจล่าสุดพบว่า อายุของเด็กที่มีเพศสัมพันธ์มากกว่า 1 ครั้งจะอยู่ที่ 14 – 15 ปี ส่วนกลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยง อาทิ ถูกละเมิด ถูกกระทำจากคนใกล้ตัว จะอยู่ที่ 12 – 13 ปี สาเหตุเนื่องจากความอยากลอง และสื่อลามกหรือสื่ออินเทอร์เน็ตมีส่วนอย่างมากที่ให้เด็กมีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้น
“จากการสำรวจและศึกษาเกี่ยวกับเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นนั้น ผลที่ได้ตรงกันทุกครั้งคือ การรับรู้ในสิ่งที่ยั่วยวนมีเพิ่มสูงขึ้น แหล่งข้อมูลไม่ดีมีมากขึ้น และสื่อประเภทต่างๆที่มีฉากล่อแหลมนั้นเป็นตัวเร่งให้อายุของเด็กที่เริ่มมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกต่ำลง”
นายสุขุมกล่าวว่า ทางแก้ปัญหาควรเริ่มที่ครอบครัวและโรงเรียน ด้วยปัญหาและปัจจัยที่ทำให้เด็กมีความเสี่ยงมีมากขึ้น แต่การอบรมของพ่อแม่และครูลดลง จึงเกิดช่องว่างระหว่างปัญหากับทางแก้ไข รวมทั้งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องลงไปแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดและตรงพื้นที่ เนื่องจากความเสี่ยงของเด็กแต่ละกลุ่มมีความแตกต่างกัน
นพ.สุริยเดว ทรีปาตี กุมารแพทย์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวว่า จากการศึกษาของตนที่ทำงานในคลินิกเพื่อนวัยทีนมาโดยตลอด พบว่าสถิติของเด็กวัยรุ่นไทยมีเพศสัมพันธ์ในช่วงวัยรุ่นตอนกลาง เด็กชายจะมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกตอนอายุ 15 ปี เด็กหญิงอายุ 16 ปี ซึ่งสื่อประเภทต่างๆ รวมทั้งอินเทอร์เน็ตมีส่วนอย่างมาก มีการศึกษาวิจัยที่พบว่าเด็กที่ดูฉากเลิฟซีน 4 ฉากต่อ 1 ชั่วโมง ส่งผลต่อการเริ่มมีเพศสัมพันธ์ของเด็ก ฉะนั้น สื่อลามกเป็นปัจจัยกระตุ้นที่รุนแรงต่อปัญหานี้ การป้องกันนั้น สื่อทีวีควรต้องมีการจัดระเบียบเวลาให้สื่อที่มีฉากลามกหรือฉากเลิฟซีนไปฉายในช่วงเวลา 22.00 น.ขึ้นไป
“ต้องสร้างกิจกรรมทางเลือกให้วัยรุ่น เนื่องจากอินเทอร์เน็ตเป็นสื่อที่เข้าถึงง่าย แต่ป้องกันได้ยาก พอมีเวลาว่างเด็กมักจะเข้าอินเทอร์เน็ต ฉะนั้น ครอบครัวและสังคมต้องสร้างกิจกรรมดีๆ ให้วัยรุ่นได้มีส่วนร่วม และพ่อแม่ควรให้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อส่วนกลาง ที่เมื่อเด็กอยากจะเข้าไปหาข้อมูลต่างๆ พ่อแม่สามารถมีส่วนร่วมไปพร้อมกับเด็กได้”
นพ.สุริยเดวกล่าวว่า ปัญหาที่มาพร้อมกับการมีเพศสัมพันธ์ในวัยที่เร็วขึ้น ก็คือความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูก เนื่องจากในช่วงอายุ 10 – 15 ปี ปากมดลูกมีภาวะบอบบาง มีการเปลี่ยนแปลงสภาพเป็นแบบผู้ใหญ่ หากมีเพศสัมพันธ์ในช่วงวัยนี้จะทำให้มีการติดเชื้อได้ง่าย ซึ่งเด็กอายุช่วงนี้หากมีเพศสัมพันธ์ 3 ปีต่อเนื่อง มีการเปลี่ยนคู่นอนหลายคน มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ จะมีเชื้อมะเร็งปากมดลูก แต่เกือบ 80 – 90 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มนี้จะหายได้เอง เนื่องจากเซลล์ปากมดลูกยังมีการแบ่งตัว และเชื้อมะเร็งจะหลุดไปเอง ถึงกระนั้นแล้วก็ไม่ต้องการให้มีกลุ่มที่เสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูกเกิดขึ้น วัย 10 – 15 ปี จึงไม่ควรมีเพศสัมพันธ์อย่างยิ่ง ส่วนวัยอื่นหากมีเพศสัมพันธ์ต้องใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้ง
ด้าน นพ.วิสิทธิ์ สุภัครพงษ์กุล รองเลขาธิการ สมาคมมะเร็งนรีเวชไทย กล่าวว่า การใช้ชีวิตของคนไทยเปลี่ยนแปลงไปมาก ผู้หญิงในปัจจุบันเริ่มมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย และมีแนวคิดในการใช้ชีวิตแบบอยู่ร่วมกันก่อนแต่งงาน หรือการเปลี่ยนคู่นอนได้ทำให้เสี่ยงต่อมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้นด้วยสื่อต่างๆ และสภาพสังคมส่งเสริมให้เด็กมีเพศสัมพันธ์ได้ง่าย
ทางแก้ไขต้องสร้างค่านิยมความคิดเรื่องเพศสัมพันธ์ใหม่ กลับมาปลูกฝังค่านิยมมีเพศสัมพันธ์เมื่อมั่นใจและพร้อม ในทางกลับกัน หากรณรงค์เรื่องนี้มากเกินไปก็ส่งผลให้เด็กที่มีปัญหาเรื่องเพศ อาทิ มีอาการผิดปกติก็จะไม่กล้าพูดคุยเรื่องนี้กับผู้ใหญ่ ซึ่งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต้องหาจุดกลางร่วมกัน
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
Update 26-06-52
อัพเดทเนื้อหาโดย : กันทิมา ลีจันทึก
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
– ภัย ‘เน็ต’ ทำเด็กซึมเศร้า-เมินพ่อแม่
– เผย ‘การ์ตูนโป๊’ เกลื่อนเน็ต
– สังคมออนไลน์ ภัยอินเตอร์เน็ต
– โพลชี้โจ๋หญิง 86% เสี่ยงเอดส์
– คลิปหลุด-แอบถ่าย-แชทไลน์ ภัยคุกคามเยาวชนไทย
– เด็กติดเกม…ภัยร้ายโลกไซเบอร์