เตือนประทัดยักษ์ ยี่เป็งสุดอันตราย รับวันลอยกระทง

 

แพทย์เตือนจุดประทัดยักษ์ ลอยกระทงทำพิการ รวมทั้งอุบัติเหตุบนถนน เผยสถิติปีที่ผ่านมาจากโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน40 แห่ง พบบาดเจ็บจากประทัดดอกไม้ไฟ 136 ราย เสียชีวิต 2 รายขณะที่สถิติอุบัติเหตุเพิ่มเป็นเงาตามตัวโดยมียอดคนเจ็บเกือบพันราย

นพ.วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุข เปิดเผยว่าในช่วงเทศกาลยี่เป็ง หรือลอยกระทงที่จะถึงนี้สิ่งที่ต้องตระหนัก คืออุบัติเหตุจากประทัดยักษ์ ดอกไม้ไฟ รวมทั้งอุบัติเหตุบนถนนซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดได้สั่งการให้ทุกโรงพยาบาลเตรียมพร้อมเพื่อรับมือคนเจ็บป่วยอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ จากสถิติในช่วงเทศกาลลอยกระทงปี 2554 พบว่า ในโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนจำนวน 40 แห่งในจังหวัดเชียงใหม่ มีผู้ป่วยที่ได้รับอุบัติเหตุจากประทัดและดอกไม้ไฟจำนวนทั้งสิ้น 136 ราย (อัตรา 8.32 ต่อแสนประชากร) ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องส่งต่อเพื่อรับการรักษาและรับไว้เป็นผู้ป่วยในจำนวน21 ราย อวัยวะของร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บมากที่สุด ได้แก่ บริเวณมือ, แขน, ขา และเท้า (ร้อยละ 57.35) รองลงมาได้แก่ บริเวณใบหน้า ตาและหู (ร้อยละ 24.26) และบริเวณศีรษะและคอ(ร้อยละ 6.62 )

สำหรับพื้นที่ที่เกิดการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุประทัดและดอกไม้ไฟมากที่สุด ได้แก่ อ.กัลยาณิวัฒนา อ.เมือง และ อ.แม่วาง โดยมีอัตราต่อแสนประชากรเท่ากับ 65.47, 19.71 และ 14.04 ตามลำดับ

ส่วนกลุ่มอายุและเพศ ผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุประทัด และดอกไม้ไฟ พบสูงสุด ในกลุ่มอายุ 10-14 ปี (20 ราย) 15-19 ปี (18 ราย)และ 20-24 ปี (16 ราย) ตามลำดับ เป็นเพศชาย 108 ราย และเพศหญิง 28 ราย

นพ.วัฒนา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียชีวิต 2 ราย จากเหตุการณ์พลุระเบิด เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2554 ที่วัดห้วยปู ต.แม่แดด อ.กัลยาณิวัฒนา รายที่ 1 เพศชาย อายุ 49 ปี ที่อยู่ 29 หมู่ 5 ต.แม่แดด อ.กัลยาณิวัฒนา เป็นผู้ทำพลุในที่เกิดเหตุ ระหว่างตำส่วนผสมของพลุเกิดระเบิดขึ้น ได้รับบาดเจ็บโดยมีแผลไฟไหม้ลึกระดับ 2 และแผลฉีกขาดทั่วร่างกาย ทำให้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ

รายที่ 2 เพศชาย อายุ 44 ปี ที่อยู่ 26 หมู่5 ต.แม่แดด อ.กัลยาณิวัฒนา เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ขณะเกิดเหตุเข้าไปกำกับดูแลการผลิตพลุ ระหว่างนั้นพลุเกิดระเบิดขึ้นทำให้ได้รับบาดเจ็บโดยมีแผลไฟไหม้ลึกระดับ 2 ทั่วร่างกายให้การรักษาเบื้องต้นที่ รพ.วัดจันทร์ฯ ใส่ท่อช่วยหายใจ จากนั้นนำส่ง รพ.มหาราช โดยรถพยาบาลของรพ.วัดจันทร์ฯ และเสียชีวิต เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2554 ที่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่

ด้านอุบัติเหตุจราจรในช่วงเทศกาลลอยกระทง จ.เชียงใหม่ ปี 2554 นั้น มีผู้เสียชีวิต 7 ราย บาดเจ็บ 855 ราย (อัตรา 52.33 ต่อแสนประชากร) เพิ่มจากช่วงเวลาปกติ ร้อยละ 33 ซึ่งโดยทั่วไปช่วงเทศกาลลอยกระทง จะมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุจราจรสูงกว่าปกติ ร้อยละ 20-30

นพ.วัฒนา กล่าวต่ออีกว่า การให้บริการการแพทย์ฉุกเฉิน (ems) ในช่วงเทศกาลลอยกระทง (วันที่ 7-13 พ.ย. 2554) ให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินในช่วงเทศกาลลอยกระทงทั้งหมดจำนวน 481 ครั้ง เป็นระดับสูง (als) จำนวน145 ครั้ง ระดับกลางจำนวน 1 ครั้ง ระดับพื้นฐาน(bls) จำนวน 46 ครั้ง การปฐมพยาบาลเบื้องต้น (fr) จำนวน 288 ครั้ง และไม่ระบุระดับบริการจำนวน 1 ครั้ง ตามลำดับ

สำหรับข้อเสนอแนะเพื่อการพิจารณา ผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่พบในกลุ่มวัยรุ่นอายุ 10-19 ปีและในกลุ่มอายุ 20-29 ปี พบว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่าผู้บาดเจ็บที่อายุน้อยที่สุดคือ 6 เดือน

ดังนั้น การป้องกันนอกจากการดำเนินการป้องกัน ในกลุ่มวัยรุ่น และกลุ่มบุคคลทั่วไปแล้ว ยังต้องเน้นการดูแลในกลุ่มเด็กเล็กโดยเน้นย้ำให้ผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ให้บุตรหลานเล่นตามลำพัง และควรระมัดระวังทั้งอุบัติเหตุประทัดและดอกไม้ อุบัติเหตุจราจรการจมน้ำขณะลอยกระทง และความคึกคะนองของการเล่นประทัด ดอกไม้ไฟ เช่น การจุดดอกไม้ไฟใส่ฝูงชน หรือโยนดอกไม้ไฟใส่กันการเล่นประทัดยักษ์ ทำให้เกิดความกลัว บางส่วนไม่กล้าออกมาร่วมงานลอยกระทง ประทัดยักษ์ยังอาจเป็นอันตรายแก่ผู้เล่น ทำให้พิการและเสียชีวิตได้

ด้านนายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ พร้อมคณะ ได้ร่วมกันออกตรวจการจำหน่ายประทัด และดอกไม้เพลิง ตามแผนงานการออกตรวจร้านค้าจำหน่ายประทัด และดอกไม้เพลิงของเทศบาลนครเชียงใหม่ในช่วงงานประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ประจำปี 2555 เพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวในช่วงงานประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ หลังจากพบว่า หลายปีที่ผ่านมาประทัดและดอกไม้เพลิงที่ประชาชนนำมาจุดเล่นในช่วงประเพณียี่เป็งนั้นได้สร้างความเสียหายทั้งต่อร่างกาย และทรัพย์สิน รวมทั้งยังส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวบางส่วนได้รับบาดเจ็บอีกด้วย

ส่วนความคืบหน้าของการเตรียมงานประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้การเตรียมงานต่างๆมีความพร้อมกว่าร้อยละ 80 แล้ว โดยในวันที่25 พ.ย. จะเปิดเทศกาลโคมไฟทั้ง 8 จุดทั่วตัวเมือง ตามด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่จะดำเนินไปตามลำดับ ได้แก่ การเปิดงานประเพณียี่เป็ง ในวันที่ 27 พ.ย. การแห่ขบวนกระทงเล็ก ในวันที่28 พ.ย. และการแห่ขบวนกระทงใหญ่ในวันที่ 29 พ.ย. 2555 โดยปีนี้คาดว่า จะมีคนมาเที่ยวชมงานเป็นจำนวนมาก และทำให้เงินสะพัดนับพันล้านบาท
 

 

 

ที่มา :หนังสือพิมพ์ astv ผู้จัดการ

Shares:
QR Code :
QR Code