เตือนคนกรุง ช่วยทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง
รองปลัดกรุงเทพมหานคร ขอความร่วมมือประชาชนดูแลอาคารบ้านเรือน ที่อยู่อาศัย ตลอดจนชุมชนแวดล้อมให้ปราศจากแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายที่เป็นตัวแพร่เชื้อโรค
แฟ้มภาพ
แพทย์หญิงวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวย้ำมาตรการเฝ้าระวังโรคไข้เลือดออก โดยในปีนี้สถานการณ์โรคไข้เลือดออกมีแนวโน้มจะรุนแรงกว่าทุกปี ที่ผ่านมา ซึ่งกรุงเทพมหานครได้ประชุมติดตามเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดในพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมา สำนักอนามัยรวมถึงเขตต่างๆ ได้ลงพื้นที่ทำความเข้าใจและให้ความรู้การป้องกันโรคไข้เลือดออกแก่ประชาชนอย่างสม่ำเสมอ
แต่อย่างไรก็ดีต้องขอความร่วมมือประชาชนซึ่งเป็นส่วนสำคัญยิ่งช่วยกันดูแลอาคารบ้านเรือน ที่อยู่อาศัย ตลอดจนชุมชนแวดล้อมให้ปราศจากแหล่งเพาะพันธุ์ ยุงลายที่เป็นตัวแพร่เชื้อโรค ไม่เฉพาะโรคไข้เลือดออก ยังมีโรคซิกาที่ยุงลายเป็นพาหะแพร่เชื้อด้วย ซึ่งผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อไวรัสซิกาจะไม่มีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้เหมือนโรคไข้เลือดออก แต่ก็จะมีไข้สูงมีผื่นขึ้น ปัจจุบันนี้ยังไม่มียารักษา และจากรายงานพบหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับเชื้อไวรัสซิกาทารกที่เกิดมาจะไม่ปกติมีศีรษะเล็กและมีความผิดปกติทางสมอง แม้ขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยโรคซิกาในพื้นที่กรุงเทพฯ แต่ต้องเฝ้าระวังเพราะกรุงเทพมหานครมีคนเดินทางเข้า-ออกตลอดเวลา ทางที่ดีที่สุดคือเราต้อง ระวังตัวเองไม่ให้ยุงกัดเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด และช่วยกัน ดูแลบ้านของตนเองจะรอแต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้เพราะทุกคนเสี่ยงเท่ากัน
ทั้งนี้ สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในพื้นที่กรุงเทพฯ ปี 2558 มีผู้ป่วย 28,177 ราย เสียชีวิต 5 ราย (เฉพาะเดือน มกราคม 2559 พบผู้ป่วยแล้วกว่า 300 ราย) กลุ่มอายุที่พบ มากที่สุด ได้แก่ อายุ 20-24 ปี รองลงมาอายุ 15-19 ปี และอายุ 10-14 ปี ทั่วประเทศมีผู้ป่วยรวม 142,925 ราย เสียชีวิต 141 ราย ซึ่งอัตราป่วยของกรุงเทพมหานครเป็นลำดับที่ 5 จากทั้งประเทศ และเป็นลำดับ 1 เมื่อเทียบกับ 6 จังหวัดปริมณฑล
โดยในพื้นที่ 50 เขต มีพื้นที่ที่มีระดับความเสี่ยงสูง มาก 10 เขต ได้แก่ ลาดพร้าว จตุจักร ดินแดง วังทองหลาง บางกะปิ สวนหลวง ประเวศ วัฒนา บางพลัด และธนบุรี พื้นที่ระดับความเสี่ยงสูง 12 เขต ได้แก่ บางแค บางบอน จอมทอง บางกอกน้อย พญาไท ราชเทวี ห้วยขวาง บางซื่อ บางเขน สะพานสูง บึงกุ่ม และพระโขนง ส่วนพื้นที่อื่นๆ มีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อโรคไข้เลือดออกเช่นกัน
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า