เตือนกลุ่มเสี่ยงระวังหมอกควัน

เตือนกลุ่มเสี่ยงระวังหมอกควัน thaihealth


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศในจังหวัดเชียงใหม่เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2558 ซึ่งพบว่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศหรือ PM10 สูงขึ้นถึง 181 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย และ ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งวัดได้ 163 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งอยู่ในระดับวิกฤติมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน


สถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นทำให้ นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรียกประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขและบรรเทาปัญหาไฟป่าและหมอกควันเป็นการเร่งด่วน


ด้าน น.พ.ไพศาล ธัญญาวินิชกุล สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเตือน ประชาชนป้องกันตนเองจากภาวะหมอกควันว่า หากจำเป็นต้องออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้ง ให้สวมใส่เสื้อแขนยาว แว่นตา และหน้ากากอนามัยโดยซ้อนกระดาษทิชชู 2 ชั้น ลดการสูดฝุ่นละอองสะสมในปอด และป้องกันการระคายเคืองผิวหนัง และระคายเคืองเยื่อบุตา


การตรวจวัดคุณภาพอากาศโดยกรมควบคุมมลพิษ ณ จุดวัด ในวันที่ 2 มีนาคม 2558 ที่โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ วัดได้ 181.37 ไมโครกรัม/ลบ.ม., ที่ศูนย์ราชการ วัดได้ 162.54 ไมโครกรัม/ลบ.ม. และตำหนักภูพิงค์ฯ วัดได้ 122.50 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ซึ่งจะมีผลกระทบต่อสุขภาพ ในเบื้องต้น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ได้แจ้งไปยัง สำนักงานสาธารณสุขอำเภอทุกอำเภอ โรงพยาบาลชุมชน และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพสต.) ทุกแห่ง ให้เตรียมแจกหน้ากากอนามัย (สำหรับกลุ่มเสี่ยง) ผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ หอบหืด และโรคเรื้อรัง


ยอดจำนวนหน้ากากอนามัยที่สนับสนุนเบื้องต้นแก่ทุกหน่วยบริการจำนวน 1,000 ชิ้น และยังมีสำรองอีกจำนวนหนี่ง รวมทั้ง อสม.ทุกหมู่บ้านได้ออกเคาะประตูบ้านสอบถามอาการ กลุ่มโรคที่อาจเกิดจากภาวะมลพิษหมอกควัน เพื่อประสานขอความช่วยเหลือจาก รพ.สต.ในพื้นที่และให้ทางสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ ทุกอำเภอ โรงพยาบาลในสังกัดรายงานสถานการณ์ทุกวัน


สำหรับกลุ่มที่มีความเสี่ยงเจ็บป่วยได้ง่ายกว่าคนทั่วๆ ไป มี 7 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มเด็ก 2.หญิงตั้งครรภ์ 3.ผู้สูงอายุ 4.ผู้ป่วยโรคหอบหืด 5.ผู้ป่วยโรคถุงลมปอดอุดกั้นเรื้อรัง 6.ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ และ 7.ผู้ป่วยโรคหัวใจ ทั้ง 7 กลุ่มเสี่ยงนี้ จะต้องระมัดระวัง ควรสังเกตอาการตนเอง ผู้ที่ต้องรับประทานยาควบคุมอาการประจำต้องรับประทานให้ต่อเนื่อง จัดเตรียมยาที่จำเป็นไว้ให้พร้อม


 


 


ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง


ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

Shares:
QR Code :
QR Code