เด็กไทยวอนขอป(ล)อดควัน
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
แม้จะมีการวิจัยรองรับมานานและหลายฝ่ายต่างรับรู้กันดีว่า "ควันบุหรี่มือสอง" นั้นคือเหยื่อที่โดนผลกระทบด้านสุขภาพไม่ต่างจาก ผู้ที่สูบบุหรี่โดยตรง แต่ปัจจุบันมีคนไทยสูบบุหรี่ถึง 10.8 ล้านคน และยังพบว่าร้อยละ 39.5 ของครัวเรือนไทยมีผู้ที่สูบบุหรี่ในบ้าน และร้อยละ 27.8 เป็นผู้ที่สูบบุหรี่ในบ้านทุกวัน
อีกหนึ่งควันหลงจากงานวันเด็กปีนี้ สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย ร่วมกับโครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงจัดกิจกรรม "ป(ล)อด" รับวันเด็กแห่งชาติขึ้น ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษากรุงเทพมหานคร (ท้องฟ้าจำลอง) เพื่อสร้างความตระหนักถึงปัญหา ดังกล่าวที่ยังไม่หมดไปจากสังคมไทย โดยชูแนวคิด "ของขวัญที่มีค่าที่สุด คือการมีสุขภาพแข็งแรง" เพื่อคนที่เรารัก
โดย ดร.นพ.บัณฑิต ศรไพศาล รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า การจัดโครงการ "ป(ล)อด" นี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข สสส. และ ภาคีเครือข่ายต่างๆ ร่วมกันได้ดำเนินงานมาเป็นปีที่ 2 แล้ว อีกทั้งยังเป็นการมอบรางวัลและส่งต่อกำลังใจให้กับนักเรียน นักศึกษา ที่เข้าร่วมประกวดเรียงความ ในหัวข้อ "ชวนพ่อเลิกบุหรี่" ที่ต้องการส่งถึง พ่อ แม่ ผู้ปกครอง หรือผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือที่ยังสูบบุหรี่ ให้หันมาเห็นความสำคัญของผลกระทบจากการสูบหรี่ที่มีต่อบุตรหลานหรือคนในครอบครัว
"จากการสำรวจของสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ระหว่างเดือน พ.ค.ก.ย. พ.ศ. 2559 พบว่า เด็กที่อาศัยในบ้านที่มีผู้สูบบุหรี่ เกิดการเจ็บป่วยมากกว่าเด็กในบ้านที่ไม่มีการสูบบุหรี่ ส่วนเด็กเล็กที่ได้รับควันบุหรี่มือสอง ก่อให้เกิดความเจ็บป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ เช่น หลอดลมอักเสบและปอดบวม สูงกว่าเด็กทั่วไป และมีอัตราการเกิดโรคหอบหืดเพิ่มขึ้น ดังนั้นพ่อ แม่ ผู้ปกครองควรหันมาดูแลสุภาพครอบครัวและเป็นตัวอย่างที่ดีโดยการไม่สูบบุหรี่สำหรับเยาวชน" รองผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าว
ด้าน นพ.สมบัติ แทนประเสริฐสุข นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าคนไทย เสียชีวิตจากบุหรี่มากกว่า 51,000 คนต่อปี ทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากโรคที่เกิดจากบุหรี่เป็นต้นเหตุสูงถึง 7.5 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.8 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในแต่ละปี ดังนั้นประเทศไทยบังคับใช้พระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 ซึ่งสอดคล้องกับกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก (WHO FCTC) ที่ได้กำหนดมาตรการ ลดการใช้ยาสูบและสูดดมควันบุหรี่มือสอง ให้คนไทยทุกคนต้องรับผิดชอบปกป้องสุขภาพของตนเองและครอบครัวจากบุหรี่มือสอง โดยทำให้บ้าน และยานพาหนะ เป็นที่ที่ปลอดบุหรี่ สอนให้เด็กอยู่ให้พ้นจากควันบุหรี่มือสอง และผู้ใหญ่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเด็กในการไม่สูบบุหรี่
สำหรับกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย ชุดนิทรรศการขนาดใหญ่ จำนวน 4 ห้อง ที่เล่าเรื่องราวผลกระทบจากบุหรี่ ในฉบับที่ "เด็ก" เข้าใจง่าย และมีความสนุกสนาน ซึ่งภายในห้องนิทรรศการจะประกอบด้วย ห้องที่ 1 ที่ชวนมารู้จัก "ปอด" ห้องที่ 2 ที่แสดงให้เห็นถึง ผลกระทบที่เกิดจากบุหรี่กับปอด ห้องที่ 3 ห้องชวนคิดกับปอดของเรา และห้องที่ 4 ห้องของขวัญที่เด็กจะขอของขวัญจากครอบครัว คือการชวนพ่อ แม่ หรือผู้ปกครอง เลิกบุหรี่ ทั้งนี้ยังจัดให้มีการแสดงโชว์ "ผ่าปอด" โดยนักเรียนจากโรงเรียน สวนกุหลาบวิทยาลัย สำหรับการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนพื้นที่จากท้องฟ้าจำลอง เอกมัย ที่เห็นความสำคัญของการเรียนรู้ เท่าทันพิษภัย และอันตรายจากบุหรี่ และควันบุหรี่มือสอง