เด็กไทยกับการพัฒนารากฐานของประเทศไทยที่มั่นคง

 

ไม่ว่าวันนี้หรือวันข้างหน้า หากจะมองถึงความมั่นคงของประเทศชาติ สิ่งสำคัญที่ภาครัฐจะต้องกระทำเป็นอันดับแรกคือ การพัฒนามนุษย์ให้กลายเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดเพราะมนุษย์คือตัวกำหนดและนำทิศทางของประเทศชาติให้ก้าวไปสู่การพัฒนา

ปัจจุบันส่วนหนึ่งของสังคมเมือง ภาพลักษณ์ของผู้ใหญ่ที่ไม่ดีสะท้อนให้เด็กชินชากับการละเลยต่อการพัฒนาสังคม และภาพลักษณ์เหล่านั้น คือตัวทำลายความเจริญของชาติ และเป็นตัวฉุดให้เด็กและเยาวชนของชาติพลอยไม่ได้รับการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาไปด้วย

หากจะมองถึงความก้าวหน้าของประเทศชาติในอนาคตสิ่งสำคัญที่ต้องบอกว่าเป็น “หัวใจ” ของการพัฒนาคือการสร้างเด็กและเยาวชนของชาติวันนี้ให้มีคุณภาพเพื่อโตเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า อันจะเป็นการเตรียมความพร้อมในการวางรากฐานของประเทศไทยให้เกิดความมั่นคงที่จะก้าวไปสู่การพัฒนานั่นเอง

เมื่อวันเด็กที่ผ่านมาเราได้พบว่า “การอ่าน” เป็นปัจจัยหนึ่งที่ผู้ใหญ่มองเห็นว่าจะเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่จะสร้างให้เด็กเกิดการพัฒนา

รศ.ดร.วิลาสินี อดุลยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักรณรงค์สื่อสารสังคม สสส. เปิดเผยว่า ปัจจุบันสังคมไทยให้ความสำคัญกับหนังสือสำหรับเด็กเล็กในสัดส่วนที่น้อยมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันสนับสนุนให้มีหนังสือเข้าถึงกลุ่มเด็กเล็กมากขึ้น เพราะหนังสือจะช่วยสร้างความสุข สัมพันธภาพที่ดีให้เกิดขึ้นในครอบครัว แถมยังช่วยเสริมจินตนาการและจิตสำนึกที่ดีให้กับเด็กๆ อย่างมากด้วย โดยเฉพาะคำแนะนำของกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือยูนิเซฟ ระบุตัวชี้วัดปัจจัยที่จะช่วยพัฒนาการเด็กต่ำกว่า 5ปี ว่า ควรมีหนังสือสำหรับเด็กเล็กอย่างน้อย 3เล่ม/ครัวเรือน ซึ่งในครอบครัวของคนไทยแต่ครอบครัวไทยมีเพียงร้อยละ 40.7เท่านั้น ถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมากหากเทียบกับต่างประเทศ

ด้วยเหตุนี้เอง แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงได้ร่วมกับสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกรุงเทพมหานคร (กศน.) ได้จัดสัมมนาสาธารณะให้สังคมรับทราบถึงความสำคัญของการอ่านหนังสือในหัวข้อว่าปฏิรูปจิตสำนึกเด็กไทยด้วยหนังสือ “เล่มใหม่”

นางสุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน กล่าวว่า จากการสังเคราะห์หนังสือที่ได้รับการคัดเลือกตามโครงการคัดสรร 108หนังสือดีที่เหมาะสมต่อพัฒนาการเด็กปฐมวัย พบว่า หนังสือที่ได้รับการคัดสรรเป็นหนังสือที่ดีมาก มีการสอนให้เด็ก รู้จักคิด วิเคราะห์ มีจิตสาธารณะ แต่ประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือ ยังมีหนังสือที่เกี่ยวข้องกับการปลูกฝังเรื่องความซื่อสัตย์และการมีวิถีชีวิตสุขภาวะโดยเฉพาะการออกกำลังกายประจำ ปริมาณน้อยมากไม่ถึงร้อยละ 2ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งเป็นประเด็นที่ควรนำเสนอต่อผู้ผลิต และผู้สร้างสรรค์หนังสือเด็กว่าต้องร่วมมือกันส่งเสริมเรื่องนี้ เพื่อเป็นแนวทางบ่มเพาะเด็กให้เห็นความสำคัญตั้งแต่วัยเยาว์

ดังนั้น หากอยากเห็นสังคมไทยในอนาคตเป็นสังคมแห่งความสุข เยาวชนไทยมีความซื่อสัตย์ รักความยุติธรรม ก็ต้องเริ่มบ่มเพาะให้กับเด็กตั้งแต่วันนี้เพื่อให้เด็กเหล่านี้กลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต และผู้ใหญ่เหล่านี้คือผู้ที่จะนำพาให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน

มีการเรียกร้องและกระตุ้นให้นายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ ได้มีโอกาสในการเข้ามาร่วมในการพัฒนาที่ยั่งยืนนี้ด้วย ในฐานะที่เป็นผู้นำและเป็นหัวหน้าของคณะผู้บริหารประเทศ เพราะการจะพัฒนาเด็กและเยาวชนมิใช่จะอาศัยเพียงแค่การอ่านอย่างเดียวเท่านั้นแต่จะต้องมีบริบทอื่นๆ ที่อยู่รอบตัวของเด็กและเยาวชนให้มีส่วนในการร่วมบ่มเพาะและสร้างทัศนคติ ค่านิยมให้แก่เด็กๆ ด้วย

เราจะพบเห็นกันโดยทั่วไปว่ารอบๆ ตัวของเด็กไทยวันนี้ยังมีตัวอย่างที่ไม่ดีไม่เหมาะสมให้เด็กๆ ได้เห็นอยู่เป็นจำนวนมาก โดยตัวอย่างที่ไม่ดีเหล่านี้เด็กๆ จะได้รับและซึมซับเข้าสู่จิตวิญญาณอย่างเต็มๆ โดยไม่มีผู้ใหญ่คอยคัดสรรหรือชี้แนะให้เห็นถึง “ความถูก ความผิด” อย่างเป็นรูปธรรม

รอบตัวของเด็กไทยวันนี้จึงเป็นสภาวะของสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษแก่จิตวิญญาณของเด็กและเยาวชนของชาติในด้านของการพัฒนาสู่ความเจริญเป็นอย่างยิ่ง

ดังนั้น การสร้างหนทางเพื่อให้เด็กก้าวเดินไปสู่การพัฒนา จึงต้องเป็นหนทางแห่งความรอบรู้ เป็นหนทางแห่งการพินิจพิเคราะห์และสภาพแวดล้อมบนเส้นทางแห่งนี้จะต้องมีปัจจัยที่เอื้ออำนวยให้เด็กๆ สามารถเก็บเกี่ยวสิ่งที่ดีงามเพื่อนำมาใช้กับตัวเองได้โดยง่าย

หน้าที่สำคัญของผู้ใหญ่ที่ต้องการสร้างสรรค์เด็กไทยให้กลายเป็นทรัพยากรที่มีค่าอย่างสูงก็คือ การสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้กับเด็กๆ และเยาวชนได้เรียนรู้และเป็นแม่แบบที่ดีๆ ให้เด็กๆ ได้พบเห็น ซึ่งหากวันนี้ผู้ใหญ่มีความตั้งใจจริงที่จะให้เด็กไทยเป็นเด็กที่มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภาระอันใหญ่หลวงจึงอยู่ที่ตัวของผู้ใหญ่ว่าจะตั้งใจในการสร้างเด็กมากน้อยแค่ไหนนั่นเอง

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า โดย ปานมณี

 

Shares:
QR Code :
QR Code