เด็กหญิงยุคใหม่ประจำเดือนมาเร็วขึ้น ห่วงผลข้างเคียง ตัวเตี้ยลง-แม่วัยใส

ที่มา : เว็บไซต์แนวหน้า


เด็กหญิงยุคใหม่ประจำเดือนมาเร็วขึ้น ห่วงผลข้างเคียง ตัวเตี้ยลง-แม่วัยใส thaihealth


แฟ้มภาพ


วิจัยพบเด็กหญิงยุคใหม่ประจำเดือนครั้งแรกมาเร็วขึ้น ห่วงผลข้างเคียง ตัวเตี้ยลง-แม่วัยใส


สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดแถลงข่าวผลการศึกษา “สถานการณ์การเข้าสู่วัยสาวของเด็กไทย” โดย ศ.ดร.ปังปอนด์ รักอำนวยกิจ อาจารย์วิทยาลัยประชากรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า งานวิจัยนี้มีที่มาจากกรณีเมื่อหลายปีก่อนที่ตนไปทำงานวิจัยให้กับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เรื่องแม่วัยใสหรือการมีลูกก่อนวัยอันควร หมายถึงผู้หญิงที่มีลูกก่อนอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์


ซึ่งพบว่า ในประเทศไทยเวลานั้นมีตัวเลขแม่วัยใสอยู่ที่ 1.2 แสนคน แต่หากคำนวณด้วยวิธีทางประชากรศาสตร์ คาดว่าน่าจะมีผู้หญิงอายุต่ำกว่า 20 ปีในประเทศไทยตั้งครรภ์ถึงกว่า 4 แสนคน โดยส่วนต่างนั้นคือการทำแท้งหรือสาเหตุอื่นที่ทำให้เด็กไม่ได้คลอดออกมา ขณะที่การเป็นสาวก่อนวัยอันควร ซึ่งหมายถึงการที่ประจำเดือนมาตั้งแต่อายุน้อยๆ นั้นเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา ในปี 2513 อายุเฉลี่ยของผู้หญิงที่ประจำเดือนมาครั้งแรก อยู่ที่ 12.8 ปี แต่ในปี 2533 ลดลงมาอยู่ที่อายุเฉลี่ย 12.5 ปี


ศ.ดร.ปังปอนด์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับประเทศไทย ตนและทีมวิจัยเก็บข้อมูลจากนักเรียนหญิงกลุ่มตัวอย่างตั้งแต่ชั้น ป.3-ม.3 หรืออายุตั้งแต่ 8-14 ปี จำนวน 8,161 คน จากโรงเรียนกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 7 แห่ง ภาคเหนือ 16 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 30 แห่ง ภาคกลาง 22 แห่ง และภาคใต้ 20 แห่ง คละกันทั้งโรงเรียนรัฐบาลและเอกชน ในและนอกเขตเทศบาล โรงเรียนสหศึกษาและโรงเรียนหญิงล้วน


พบว่า อายุเฉลี่ยของเด็กหญิงไทยมีประจำเดือนครั้งแรกอยู่ที่ 11.57 ปี ประจำเดือนครั้งแรกมาเร็วสุดอยู่ที่อายุ 7.96 ปี และประจำเดือนครั้งแรกมาช้าสุดอยู่ที่อายุ 16.92 ปี ซึ่งลดลงกว่าผลการสำรวจของนักวิชาการท่านอื่นๆ ที่เคยศึกษาไว้ก่อนหน้านี้ อนึ่ง ผลวิจัยล่าสุดยังได้สอบถามแม่ของเด็กกลุ่มตัวอย่าง และทำให้เห็นว่าหญิงไทยรุ่นลูกประจำเดือนครั้งแรกมาเร็วกว่ารุ่นแม่


ส่วนปัจจัยที่มีผลต่อภาวะการเป็นสาวเร็วหรือมีประจำเดือนมาเร็วก่อนวัยอันควร ข้อค้นพบจากงานวิจัยสามารถแบ่งได้เป็น 1.อาหารและเครื่องดื่ม หากเป็นขนมกรุบกรอบ เฟรนซ์ฟรายด์ เบเกอรี่ น้ำอัดลม ชา กาแฟ และนมวัว จะเร่งการมีประจำเดือนครั้งแรกให้มาเร็วขึ้น ตรงข้ามกับน้ำเต้าหู้ นมแพะ ถั่ว ผัก/ผลไม้ ตลอดจนเนื้อสัตว์ที่ไม่ผ่านการฉีดฮฮร์โมนจะชะลอการมีประจำเดือนครั้งแรกออกไป


2.กรรมพันธุ์ หากแม่มีประจำเดือนครั้งแรกตอนอายุน้อยๆ ลูกสาวก็มักจะเป็นเช่นเดียวกัน 3.กายภาพ หากเด็กหญิงมีมวลกล้ามเนื้อมากจะชะลอการมีประจำเดือนครั้งแรกออกไป แต่หากมีไขมันมากจะเร่งการมีประจำเดือนครั้งแรกให้มาเร็วขึ้น และ 4.พฤติกรรมการใช้ชีวิต พบการใช้ขวดพลาสติก ใช้เครื่องสำอางเวชภัณฑ์ บริโภควิตามินหรืออาหารเสริม รวมถึงรับสื่อที่เกี่ยวกับเรื่องเพศ เหล่านี้จะเร่งการมีประจำเดือนครั้งแรกให้มาเร็วขึ้น เป็นต้น


“เด็กที่เป็นประจำเดือนเร็ว อันดับแรกเลยใครที่เป็นเร็วเขาจะเริ่มโวยวายว่าทำไมไม่เหมือนเพื่อน แล้วก็รู้สึกแปลกแยก แล้วก็มีความรู้สึกว่าจะทำอย่างไร ซึ่งตรงนี้ก็จะไปเกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ ประเด็นคือพอเด็กเป็นประจำเดือนเร็วในขณะที่โรงเรียนยังไม่ได้สอนเพศศึกษา หรือสอนเพศศึกษาไปในหัวข้อที่ไม่เกี่ยวกับ Reproductive Health (อนามัยเจริญพันธุ์) มันก็จะเกิดช่องว่างตรงนี้ ฉะนั้นการที่จะบอกว่าเราควรสอนเมื่อไร เด็กเป็นประจำเดือนเมื่อไรก็อาจเป็นสิ่งที่จำเป็น ที่สำคัญที่สุดเราก็อยากเน้นว่าเมื่อเด็กมีประจำเดือนเร็วก็มีความเสี่ยงถูกล่วงละเมิดทางเพศ หรือว่าการเป็นแม่วัยใสนั่นเอง” ศ.ดร.ปังปอนด์ กล่าว


ศ.ดร.ปังปอนด์ ยังกล่าวอีกว่า ขณะที่ในทางการแพทย์ พบภาวะการเป็นสาวเร็วส่งผลกระทบต่อพัฒนาการ นั่นคือกระดูกจะปิดเร็วส่งผลให้ส่วนสูงไม่เพิ่มขึ้นเต็มที่ตามศักยภาพทางกรรมพันธุ์ที่เด็กนั้นมี ทำให้เด็กมีรูปร่างเตี้ยกว่าปกติ นั่นทำให้พ่อแม่ที่มีฐานะดีและรู้ว่าลูกสาวมีภาวะเข้าสู่วัยสาวเร็วก่อนถึงเวลาอันควร จะไปพบแพทย์เพื่อให้ฉีดยาระงับฮอร์โมน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 6,000-15,000 บาทต่อเดือน


หรือล่าสุดมียาที่ฉีดทุกๆ 3 เดือน ราคาเข็มละ 7,383 บาท ระยะเวลารวมในการฉีดอยู่ที่ประมาณ 3 ปี โดยค่าใช้จ่ายนี้หากไม่เป็นครัวเรือนที่จ่ายเองก็จะเป็นภาระของรัฐตามสวัสดิการต่างๆ เช่น หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (สปสช.) นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยในต่างประเทศบางชิ้น พบว่าการเข้าสู่วัยสาว หรือประจำเดือนครั้งแรกมาเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ยังเชื่อมโยงกับความเสี่ยงการเกิดมะเร็งเต้านมด้วย

Shares:
QR Code :
QR Code