เชิญชวนกินเจ ละเว้นเนื้อสัตว์-บริโภคผัก เพื่อสุขภาพ
ที่มา : เว็บไซต์เดลินิวส์
เเฟ้มภาพ
ผอ.รพ.มหาสารคาม แนะกินอาหารเจควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ปรุงด้วยการผัดหรือทอด เสี่ยงภาวะโรคอ้วน
เทศกาลกินเจ ถือเป็นช่วงเวลาละเว้นบาป ชำระล้างร่างกายด้วยการละเว้นการทานเนื้อสัตว์ ซึ่งมีมาตั้งแต่บรรพกาล ที่ชาวจีนถือปฏิบัติเป็นประเพณีสืบต่อกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ อาหารเจเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ และเพื่อบุญแห่งชีวิต โดยการรับประทานเจจะทำให้ได้อานิสงส์หลัก ๆ คือ ล้างพิษจากเนื้อสัตว์ ร่างกายได้วิตามินและแร่ธาตุ จิตใจรู้สึกสบาย หลักการกินผัก ผลไม้ ถั่วและเต้าหู้นี้เป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ แต่ที่เหนือกว่านั้น คือ การกินแบบพร่องกว่าเก่า คือ กินบ้างอดบ้างให้หิวบ้างจะช่วยสร้างสุขภาพได้ดีกว่า ช่วยยืดให้อายุยืนขึ้นด้วย เป็นไปตามหลักเวชศาสตร์ต้านชรา อายุรวัฒน์ ดังนั้นโรงพยาบาลมหาสารคาม จึงได้ตระหนักถึงสุขภาพผู้บริโภค
นายแพทย์ภาคภูมิ มโนสิทธิศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม เปิดเผยว่า เทศกาลกินเจ ซึ่งอยู่ระหว่างวันที่ 17-25 ตุลาคม 2563 ทั้งนี้การกินเจมักมีการสงสัยกันอยู่เสมอว่า จะได้สารอาหารครบทั้ง 5 หมู่หรือไม่ ประชาชนกินอาหารเจให้ปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงอาหารเจที่ปรุงด้วยการผัดหรือทอด ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ร่างกายสะสมไขมัน เสี่ยงภาวะโรคอ้วน เลือกซื้อสินค้าที่ปลอดภัย ผักปลอดสารพิษ ล้างผักด้วยน้ำสะอาด โดยเฉพาะโปรตีนที่คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า โปรตีนในเนื้อสัตว์เป็นโปรตีนที่มีคุณภาพดีมากกว่าโปรตีนในพืช ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องนัก เพราะแท้ที่จริงแล้วโปรตีนในผัก มีคุณค่าที่ใกล้เคียงกัน ให้เน้นการปรุงด้วยวิธีการต้ม นึ่ง ยำ และอบ ควรหลีกเลี่ยงอาหารเจที่ปรุงด้วยการผัด หรือทอด เพราะใช้น้ำมันมาก ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ร่างกายสะสมไขมัน และมีน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น
ผอ.รพ.มหาสารคาม เปิดเผยอีกว่า ส่วนพืชผักที่นำมาประกอบอาหาร ถึงแม้ว่าจะมีการรณรงค์ให้เกษตรกรลดการใช้สารเคมีและส่งเสริมให้มีการผลิตอาหารจำพวกผักและผลไม้ที่ปลอดจากสารพิษอย่างต่อเนื่องก็ตาม ควรซื้อผักที่ปลอดภัยจากสารเคมีรับประทาน แต่ก็ยังมีผู้บริโภคจำนวนมากยังขาดความเอาใจใส่ในการเลือกซื้อสินค้าที่ปลอดภัยและการปลูกที่ถูกต้อง ดังนั้น ก่อนปรุงควรล้างผักด้วยน้ำสะอาด 2-3 ครั้ง หรือแช่ในน้ำปูนใสนาน 10 นาที เพื่อล้างสารพิษที่ตกค้างเชื้อโรคและสารเคมีให้หมดไปด้วย
นพ.ภาคภูมิ เปิดเผยด้วยว่า ในช่วงเทศกาลกินเจจะเห็นได้ว่าอาหารส่วนใหญ่จะเป็นของทอดและผัด จึงแนะนำว่าหากจะทานของทอดต้องพิจารณาความสะอาดของน้ำมันที่คนขายใช้ ต้องไม่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ ซึ่งจะมีสารที่สามารถก่อให้เกิดมะเร็งต่อร่างกายได้ และไม่ควรทานควบคู่กับผัดผักหรืออาหารที่ใช้ปริมาณน้ำมันเป็นส่วนประกอบสูง ส่วนอาหารดองเค็ม เช่น ผักกาดดอง หัวไชเท้าดอง ผักดองบางชนิดก็เอามาทำเป็นแกงหรือผัด ความเค็มนั้นจะสูงมาก ควรนำมาล้างหรือแช่น้ำเพื่อลดความเค็ม เพราะอาหารที่เค็มจะมีโซเดียมมาก ทำให้เกิดอาการกระหายน้ำและดื่มน้ำมาก เกิดความดันโลหิตสูงตามมาโดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีปัญหาทางไต โรคหัวใจหรือความดันโลหิตสูงอยู่เดิม อาจทำให้เกิดหัวใจวาย บวมน้ำได้
ทั้งนี้ การกินเจจะทำให้รู้สึกหิวบ่อย ควรรับประทาน ผลไม้แทนขนมหวาน น้ำอัดลม หรืออาหารที่มีน้ำตาล