เขตพระนครต้นแบบเพื่อนคนพิการ

จุดเริ่มต้นเพื่อความเสมอภาคของคนในสังคม

 เขตพระนครต้นแบบเพื่อนคนพิการ

            ในอดีตคนพิการ ถูกละเลย มองข้าม และไม่เห็นความสำคัญจากคนส่วนใหญ่ในสังคม ถูกผลักดันให้ไปอยู่ในพื้นที่ที่จำกัด เช่น สถานสงเคราะห์ สถานฝึกอาชีพ ฯลฯ หรือให้อยู่แต่ภายในบ้าน แต่ในปัจจุบันจากแนวคิดเรื่อง ความเสมอภาคของคนพิการ ที่มุ่งเน้นให้คนพิการสามารถดำรงชีวิตอยู่ร่วมสังคมเดียวกันกับคนไม่พิการได้อย่างปกติสุข โดยการปรับแก้ไขสังคมและสภาพแวดล้อมให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการที่แตกต่างกันไป เพราะเมื่อสังคมมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างพอเพียง คนพิการก็จะสามารถออกมาใช้ชีวิตประจำวัน หรือออกมาทำกิจกรรมต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ลดภาระของครอบครัวและสังคม อีกทั้งยังช่วยสร้างโอกาสให้คนพิการได้พัฒนาศักยภาพตนเอง นำความรู้ ความสามารถมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติต่อไป

           

จากนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้คนพิการสามารถเข้าถึงสถานที่และการบริการพื้นฐานของรัฐได้  โดยให้หน่วยงานราชการ จัดสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานสำหรับคนพิการนั้น โครงการสำนักงานเขตต้นแบบเพื่อนคนพิการ จึงถูกริเริ่มขึ้น จากกลุ่มคนเล็กๆ กลุ่มหนึ่ง ภายใต้ชื่อชมรมกลุ่มเพื่อน 2000 ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกที่เป็นคนพิการและไม่พิการ มาร่วมแรงร่วมใจกันทำโครงการนี้ โดยได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และความร่วมมือจากสำนักงานเขตพระนคร ให้เป็นเขตต้นแบบเพื่อคนพิการ

 

น.ส.มานิดา โศภิษฐพงศ์ ประธานชมรมกลุ่มเพื่อน 2000 เล่าว่า ทางกลุ่มของเรามองว่า สำนักเขตเป็นหน่วยงานพื้นฐานของรัฐที่มีความสำคัญ เกี่ยวข้องทั้งในด้านนโยบายและการให้บริการที่มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับประชาชนทั่วทุกกลุ่มภายในพื้นที่ จึงควรมีการพัฒนาและปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการให้เป็นไปตามแนวทางที่เหมาะสมตามกฎหมาย ต่อทั้งกลุ่มคนพิการและผู้สูงอายุ เพื่อให้สามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ของสำนักงานเขตได้อย่างสะดวกและปลอดภัย

 

กิจกรรมแรกของโครงการฯ นี้ เริ่มต้นจากการสำรวจสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่างๆ สำหรับคนพิการ ภายในสำนักงานเขตพระนคร ว่ายังมีจุดใดบ้างที่จำเป็นต้องทำการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม จากนั้นจะเป็นการอบรมให้ความรู้ ได้แก่ การจัดการบรรยายเกี่ยวกับแนวทางการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งภายในและภายนอกอาคาร สำหรับคนพิการและผู้สูงอายุที่เหมาะสม โดยเชิญ รศ.ไตรรัตน์ จารุทัศน์ จากหน่วยวิจัยสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุและผู้พิการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาเป็นวิทยากร

 

น.ส.มานิดา กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ยังจัดอบรมเรื่อง ความเสมอภาคของคนพิการ เพื่อมุ่งเน้นให้ทั้งคนพิการและไม่พิการ ได้ปรับเปลี่ยนทัศนคติและความตระหนักรู้ที่มีต่อคนพิการ ร่วมกันขจัดอุปสรรคต่างๆ ในสังคม ได้แก่ อุปสรรคทางกายภาพ เช่น อาคารสถานที่/ระบบขนส่งมวลชน อุปสรรคทางทัศนคติ ความเชื่อที่ผิดๆ ที่มีต่อคนพิการ อุปสรรคด้านระบบ, ระเบียบทางกฎหมายและนโยบาย ที่กีดกั้นหรือห้ามคนพิการในการทำบางสิ่งบางอย่าง และอุปสรรคด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร


            สำหรับกิจกรรมสุดท้ายคือ การจัดทำแผนปฏิบัติการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการ ซึ่งทางสำนักงานเขต ได้รับไปดำเนินการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกตามแผนปฏิบัติการที่ได้ทำร่วมกัน โดยมีทีมงานของชมรมฯ เข้าไปช่วยดูแลและให้คำแนะนำ ซึ่งก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ดังนี้ มีการจัดที่จอดรถสำหรับคนพิการ พร้อมแสดงป้ายสัญลักษณ์ ในบริเวณที่ใกล้และสะดวกที่สุดในการติดต่อหรือเข้ารับบริการจากสำนักงานเขตฯ ทำการปรับพื้นที่ทางเดินเข้าประตู ณ ศูนย์บริการจุดเดียวเบ็ดเสร็จให้เป็นทางลาด ปรับลดระดับความสูงของเครื่องโทรศัพท์สาธารณะให้ต่ำลง อยู่ในระดับที่คนพิการที่นั่งวีลแชร์สามารถใช้งานได้สะดวก พร้อมทั้งติดแถบอักษรเบรลล์ไว้ที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะและปุ่มกดที่ลิฟต์ เพื่อความสะดวกแก่คนพิการทางสายตาอีกด้วย ในส่วนของห้องน้ำคนพิการ ทางเขตได้ทำการติดราวจับผนังทางเดินเข้าห้องน้ำ และเปลี่ยนหัวก๊อกอ่างล้างหน้าจากแบบหมุนให้เป็นแบบก้านผลัก เพื่อให้สะดวกในการใช้งานมากขึ้น

เขตพระนครต้นแบบเพื่อนคนพิการ 

นายสุวพร เจิมรังษี ผู้อำนวยการเขตพระนคร กล่าวว่า เป็นความภูมิใจของสำนักงานเขตพระนครที่ได้รับเลือกให้เป็นเขตต้นแบบเพื่อคนพิการ เนื่องจากสำนักงานเขตเป็นหน่วยงานราชการที่มีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขและให้บริการประชาชนในพื้นที่ การจัดสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้เหมาะสมกับประชาชนทุกกลุ่ม จึงเป็นงานที่มีความสำคัญ ช่วยให้คนพิการสามารถมีส่วนร่วมในสังคมได้อย่างเสมอภาค โดยในอนาคตจะเพิ่มระบบเสียงภายในลิฟต์ เพื่อคนพิการทางสายตา และอักษรวิ่งดิจิตอลที่จุดบริการจุดเดียวเบ็ดเสร็จ สำหรับคนพิการทางการได้ยินและบุคคลทั่วไปอีกด้วย

 

โครงการสำนักงานเขตต้นแบบเพื่อนคนพิการแม้จะเป็นเพียงหนึ่งในโครงการเล็กๆ จากกลุ่มคนเล็กๆ กลุ่มหนึ่ง แต่ก็ได้ช่วยจุดประกายความหวังของผู้พิการทั้งหลาย ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกมองมองข้ามจากคนส่วนใหญ่ในสังคม ให้กลับมามีพลังในการดำรงชีวิตได้ด้วยตนเอง และอยู่ร่วมกับคนปกติในสังคมอย่างเสมอภาค

 

 

 

ที่มา: ศิรินทิพย์ อิสาสะวิน team content www.thaihealth.or.th

 

 

update: 16-09-53

อัพเดทเนื้อหาโดย: ศิรินทิพย์ อิสาสะวิน

 

Shares:
QR Code :
QR Code