เกษตรอินทรีย์ลดต้นทุนผลิต เอื้อสุขภาพดี
ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
สสส.แนะการจัดการชุมชน บ้านสำโรง ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ โดยใช้ “สภาผู้นำชุมชน” ขับเคลื่อน แก้ปัญหาเรื่องสารเคมีจากยาฆ่าแมลง สู่หมู่บ้านเกษตรอินทรีย์ ส่งเสริมชุมชนสุขภาพดี
นายพีรวัศ คิดกล้า ผู้ใหญ่บ้านสำโรง ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ กล่าวว่า บ้านสำโรงมี 183 ครัวเรือน ประชากร 736 คน เมื่อปี 2555 มีค่าใช้จ่ายการเกษตร 1,744,114 บาทต่อปี ซึ่งสูงมาก แทบทุกครัวเรือนใช้ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง ติดต่อกันนานกว่า5ปีขึ้นไป จากสถิติในรอบ 3 ปี มีชาวบ้านป่วยจากการใช้ยาฆ่าแมลง 6 ราย เสียชีวิต 3 ราย ที่รพ.สต.มักมีชาวบ้านไปรักษาอาการแพ้ยาฆ่าแมลง เช่น ปวดมึนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน มีกลิ่นสารเคมีออกจากร่างกายเกิดจากใช้ยาฆ่าแมลงปริมาณสูงฉีดพ่นแปลง ผักทุกวัน เคยถูกร้องเรียนการใช้สารเคมีรบกวนพื้นที่ใกล้เคียง และผู้ค้าที่มารับผักจากบ้านสำโรงไปขายก็ร้องเรียนเรื่องการใช้สารเคมีในผัก
นายพีรวัศ กล่าวว่า ต่อมามีหมอจาก รพ.สต.มาแนะนำโครงการของสสส. ให้แก้ปัญหาเรียกว่า สภาผู้นำชุมชน ซึ่งสสส.นำต้นแบบจากบ้านหนองกลางดง ม.7 ต.ศิลาลอย อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เริ่มแก้ปัญหาการใช้สารเคมีในผัก โดยแปลงผักต้นแบบบ้านสำโรง ของนายแก่นแก้ว หอมนวล ซึ่งลดการใช้สารเคมีลงตั้งแต่ปี 2555 เปลี่ยนมาใช้วิธีการไล่แมลงแบบธรรมชาติและปุ๋ยอินทรีย์ทำให้เก็บผักขายได้ตลอดมีรายได้เดือนละ 8-9 พันบาท
โดยตอนนี้นายแก่นแก้วใช้เงินลงทุนลดลงรายได้มากขึ้น สุขภาพก็ดีขึ้นจากที่เคยป่วยเพราะต้องอยู่กับสารเคมี และบ้านสำโรงลดการซื้อสารเคมีเหลือปีละ 15,485 บาท จากปีละ 89,975 บาท คิดเป็นร้อยละ 80