อันตรายบริโภค ‘คางคกปิ้ง’
ที่มา : เว็บไซต์สปริงนิวส์
แฟ้มภาพ
แพทย์เตือน ชาวบ้าน จ.น่าน กิน “คางคกปิ้ง” แกล้มสุรา หลังเสียชีวิต 2 แล้ว
โรงพยาบาลทุ่งช้าง อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน รายงานว่า พบผู้ป่วยรับประทานเนื้อคางคกแล้วเสียชีวิต จำนวน 2 คน มีอาการป่วยส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีก 3 คน สอบถามทราบว่า ได้มีการนำคางคกมาปิ้งร่วมกับไก่ในตะแกรงอันเดียวกันก่อนรับประทาน โดย 1 ในผู้เสียชีวิตเป็นเพศชาย อายุประมาณ 70 ปี มีโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูงและโรคไตเรื้อรัง อีกทั้งได้ดื่มสุรากินแกล้มกับคางคกปิ้งด้วย หลังจากนั้น ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง จึงเริ่มมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว จุกแน่นท้อง ก่อนจะหมดสติและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ด้าน นพ.นริศ บุญธนภัทร นายแพทย์ชำนาญการโรงพยาบาลทุ่งช้าง เตือนประชาชนเรื่องการรับประทานคางคก ขอให้งดเว้นโดยเด็ดขาด เนื่องจากคางคกมีพิษร้ายแรงมาก ให้หลีกเลี่ยงการรับประทาน
“สาเหตุคิดว่าน่าจะเป็นจากคางคก ซึ่งอยากจะเตือนเลยว่า ไม่ให้กิน ไม่ให้กินคางคก แม้จะบอกว่ารู้วิธีทำไม่ให้มีพิษ ก็ไม่ควร” นพ.นริศ กล่าว
ทั้งนี้ ลักษณะพิษของคางคกเป็นเมือกสีขาว ชาวบ้านเรียกว่า ยางคางคก โดยแต่ละตัวจะมีต่อมเก็บและขับสารพิษอยู่บริเวณเหนือตา 1 คู่ เรียกว่า “ต่อมพาโรติด” นอกจากนี้ อวัยวะส่วนอื่น ๆ ที่มีพิษ คือ ผิวหนัง เลือด เครื่องใน และไข่ของคางคก ซึ่งส่งผลอันตรายต่อมนุษย์ ทำให้เสียชีวิตได้ ส่วนสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ หากถูกพิษคางคกจะมีอาการประสาทหลอน จากการเลียและสัมผัสพิษ แต่หากกินคางคกเข้าไปทั้งตัวจะทำให้เสียชีวิตได้เช่นกัน